ไทยพีบีเอส - รัฐบาลผ่านร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ฉบับที่คณะกรรมการกฤษฎีกาแก้ไข เตรียมส่งสภาฯพิจารณาในสมัยการประชุมนี้ ระบุพื้นที่มีกาสิโน ไม่เกิน 10% ที่เหลือเป็นสถานบันเทิง หวังดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักการของร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. (ร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงฯ) หรือ Entertainment Complex ฉบับที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแก้ไข โดยร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว อันประกอบด้วยสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโน ซึ่งจะก่อให้เกิดการลงทุนและนำรายได้เข้าสู่ประเทศ ตลอดจนส่งเสริมการจ้างแรงงานในประเทศด้วย
รัฐบาลประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจ คาดสร้างรายได้ให้ประเทศ 119,000 – 238,000 ล้านบาท นักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นอัตรา 5-10% ต่อปี โดยจะทำให้รัฐมีรายได้ 12,000 – 39,000 ล้านบาทต่อปี แบ่งเป็นภาษีจากธุรกิจอื่น 8,000 -35,000 ล้านต่อปี และภาษีจากกาสิโน 3,264 ล้านบาทต่อปี
จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า การพัฒนาสถานบันเทิงครบวงจรเป็นการดึงเม็ดเงินลงทุนขนาดใหญ่จากต่างประเทศ และเป็นเม็ดเงินใหม่จากนักลงทุนที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก แบบครบวงจร รวมทั้งพื้นที่สาธารณะเพื่อการนันทนาการและการส่งเสริมศิลปะวัฒนธรรม ซึ่งจะเป็นการลงทุนเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย และทำให้ประเทศไทยเป็นผู้นำการท่องเที่ยวในภูมิภาค ประกอบกับ เป็นการนำธุรกิจกาสิโนและการพนันถูกกฎหมายให้เข้ามาอยู่ในระบบอย่างมีมาตรฐาน ภายใต้การควบคุมของกฎหมาย มีการจัดเก็บรายได้และภาษีอย่างถูกต้อง
รัฐบาลได้ตระหนักถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เช่น ปัญหาทางการเงินและหนี้สิน ปัญหาอาชญากรรม เป็นต้น โดยได้มีการเตรียมการสำหรับการกำหนดมาตรการป้องกัน แก้ไข และเยียวยาเพื่อบรรเทาผลกระทบข้างต้น เช่น การจำกัดคุณสมบัติของผู้เข้าใช้บริการเพื่อไม่ให้กระทบต่อเยาวชนและกลุ่มเปราะบาง การห้ามมิให้มีการเชิญชวน โฆษณา ประชาสัมพันธ์ จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเกี่ยวกับกาสิโน การกำหนดให้มีสำนักงานและพนักงานเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแล ตรวจสอบ และติดตามผลการดำเนินธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรอย่างใกล้ชิด เป็นต้น รวมทั้งให้มีการศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดจากการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร แล้วดำเนินการป้องกัน แก้ไข หรือเยียวยาผลกระทบดังกล่าว
ร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงฯ ประกอบด้วย 7 หมวด 104 มาตรา โดยมีสาระสำคัญ คือ กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร (คณะกรรมการนโยบายฯ) ซึ่งมีหน้าที่และอำนาจในการเสนอแนะนโยบายการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรต่อคณะรัฐมนตรี ออกประกาศเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร การควบคุมและมาตรการบังคับ รวมถึงการพิจารณาและออกคำสั่งเกี่ยวกับการออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และการเพิกถอนใบอนุญาต
นอกจากนี้ ยังกำหนดให้มีการจัดตั้งสำนักงานควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุม กำกับดูแล ติดตาม ตรวจสอบ ส่งเสริมและสนับสนุนการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
ขณะที่สถานบันเทิงครบวงจรจะต้องตั้งอยู่ในพื้นที่ตามที่คณะกรรมการนโยบายฯ กำหนด โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี และต้องประกอบด้วยธุรกิจสถานบันเทิงตามบัญชีแนบท้ายร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงฯ (เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงแรม สถานบริการ สนามกีฬา ยอร์ชและครูซซิ่งคลับ สถานที่เล่นเกม สระว่ายน้ำและสวนน้ำ สวนสนุก เป็นต้น) อย่างน้อย 4 ประเภท ร่วมกับกาสิโน โดยกาสิโนต้องมีสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 10 ของที่ดินหรือพื้นที่ใช้สอยของอาคารอันเป็นที่ตั้งของสถานบันเทิงครบวงจร และอนุญาตให้มีการพนันได้เฉพาะประเภทที่คณะกรรมการนโยบายฯ กำหนด
รวมทั้งต้องจัดให้มีเขตบริเวณของสถานประกอบการกาสิโนที่แยกห่างจากสถานประกอบธุรกิจสถานบันเทิงอื่นอย่างชัดเจน และห้ามบุคคลที่อายุน้อยกว่า 20 ปี เข้ากาสิโน นอกจากนี้ สถานบันเทิงครบวงจรจะต้องประกอบด้วยพื้นที่สำหรับส่งเสริมสินค้า บริการ และศิลปวัฒนธรรมไทย ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของพื้นที่ทั้งหมด
ทั้งนี้ ร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงฯ ฉบับดังกล่างจะถูกเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป เพื่อพิจารณาในวาระรับหลักการ และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา และแปรญัตติภายในระยะเวลาที่สภาฯ กำหนด
ก่อนหน้า ครม. มีมติ อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ที่จัดทำโดย กระทรวงการคลัง และเมื่อคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ยังคงมีหลักการตามที่ ครม. อนุมัติไว้ แต่คณะกรรมการกฤษฎีกาได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรายละเอียดให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น 4 ประเด็นหลัก คือ
1. กำหนดให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้รักษาการตามกฎหมายร่วมกัน (เดิมกำหนดให้เป็นนายกรัฐมนตรี)
2. เพิ่มเติมหน้าที่และอำนาจของ คกก. นโยบาย ในการพิจารณาเรื่องสำคัญที่ต้องเสนอ ครม. เช่น เสนอแนะนโยบายการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือการกำหนดพื้นที่ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อประกอบการ พิจารณาของ ครม.
3. แก้ไขกลไกการได้มาซึ่งผู้อำนวยการ โดยให้ คกก. นโยบายแต่งตั้ง (จากเดิม คกก. นโยบายแต่งตั้ง โดยความเห็นชอบของ ครม.)
4. กำหนดกรอบนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรที่ คกก. นโยบายเสนอแนะต่อ ครม.อย่างน้อยต้องประกอบด้วย
5. กำหนดเพิ่มเติมให้พื้นที่ที่จะอนุญาตให้ตั้งสถานบันเทิงครบวงจรต้องมีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ประกอบด้วย
6. (กำหนดใหม่)ให้กำหนดสัดส่วนพื้นที่ของกาสิโน โดยเฉพาะสถานที่จัดให้มีการเล่นพนันซึ่งจะต้องไม่เกินร้อยละ10 ของที่ดินหรือพื้นที่ใช้สอยของอาคารอันเป็นที่ตั้งของสถานบันเทิงครบวงจร แล้วแต่กรณีใดจะน้อยกว่ากัน
7. (กำหนดใหม่) กำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสถานบันเทิงถือว่าเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตเกี่ยวกับการก่อสร้างและใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจตามประเภทธุรกิจที่ระบุไว้ในใบอนุญาต และให้ถือว่าผู้ได้รับใบอนุญาตที่จัดให้มีกาสิโนเป็นสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
8. (กำหนดใหม่) กำหนดให้ คกก. นโยบาย กำหนดหลักเกณฑ์เพื่อควบคุมการประกอบการกาสิโนโดยต้องมี (8.1) การจัดให้มีมาตรการป้องกันการฟอกเงิน (8.2) ระบบควบคุมกาสิโน ที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ และ (8.3) มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจากกาสิโน (เดิมไม่มี)
9. กำหนดให้บุคคลสัญชาติไทยซึ่งจะเล่นพนันในกาสิโนต้องมีเงินฝากในบัญชีเงินฝากประจำไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท ต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน และผ่านการตรวจสอบตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ คกก. บริหาร กำหนด (เดิมกำหนด ห้ามเฉพาะผู้มีสัญชาติไทยซึ่งยังมิได้ลงทะเบียนและชำระค่าธรรมเนียมตามที่ คกก. กำหนด)
10.(กำหนดใหม่) ห้ามผู้รับใบอนุญาตหรือบุคคลใดจ้างหรือให้ผลประโยชน์ตอบแทนอื่นใดแก่บุคคลอื่น หรือเพิ่มยอดหรือจำนวนคนเล่นพนันในกาสิโน หรือเพื่อเพิ่มจำนวนเงินที่ใช้จ่ายในการเล่นพนันในกาสิโน (เดิมไม่มี).
11.เพิ่มเติมมาตรการปรับเป็นพินัย เช่น ผู้รับใบอนุญาตที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้อำนวยการที่สั่งให้ปฏิบัติข้อกำหนด และปล่อยปละละเลยหรือยินยอมให้บุคคลต้องห้ามเข้าไปในกาสิโน
12.เพิ่มเติมลักษณะการกระทำความผิดที่จะได้รับโทษทางอาญา เช่น การจัดให้มีการเล่นพนันในกาสิโนผ่านการเชื่อมต่อระบบคอมพิวเตอร์ หรือถ่ายทอดการเล่นพนันในกาสิโน และกระทำการที่เป็นการเพิ่มยอดหรือเพิ่มจำนวนคนเล่นพนันหรือเพิ่มจำนวนเงินที่ใช้จ่ายในการเล่นพนันในกาสิโน
สำหรับ ร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงฯ ฉบับนี้ ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน มาแล้ว 3 ครั้ง ในช่วงที่ผ่านมา โดยครั้งที่ 4 ได้ดำเนินการตามกฎหมาย ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-14 มี.ค. 2568 รวมเวลา 15 วันมีผู้แสดงความคิดเห็น 71,289 คน มีผู้เห็นด้วยร้อยละ 80 จำนวน 57,000 คน
ครม.ผ่านร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร มีกาสิโนไม่เกิน 10%
มท. ยกร่าง พ.ร.บ.การพนัน ฉบับใหม่ ควบคุม-ลงโทษ “พนันออนไลน์”
30 มกราคม 2568ครม.ไฟเขียวร่างกฎหมาย "เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" ย้ำมีกาสิโนไม่ถึง 10%
13 มกราคม 2568คลังร่าง กม. เสร็จแล้ว เปิดช่องตั้งกาสิโน เชื่อทำรายได้ ทะลุแสนล้าน
21 ธันวาคม 2567กฎกระทรวงมท. ปลดล็อกการพนัน เปลี่ยนเวลาแข่งวัวลาน ย้ำผวจ.คุมเข้ม
11 ตุลาคม 2567