คมชัดลึกออนไลน์ - ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) ทั้ง 12 ญัตติ เพื่อหาแหล่งรายได้ใหม่จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ โดยมีผู้แปรญัตติ 60 คน และใช้เวลาศึกษาทั้งสิ้น 90 วัน
วันนี้ (2 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 13.27 น. ที่ประชุมได้เข้าสู่การพิจารณา ญัตติ เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) เพื่อหาแหล่งรายได้ใหม่จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ รวมทั้งการเปิดกาสิโน (ถูกกฎหมาย) การป้องกันและแก้ไขการแพร่ระบาดของตู้เกมพนันไฟฟ้า (ตู้สล็อตแมชชีน) อย่างครบวงจร ซึ่งมีทั้งสิ้น 12 ญัตติ โดยนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ในฐานะประธานในที่ประชุมได้เปิดโอกาสให้สมาชิกได้อภิปรายสรุปประเด็นเกี่ยวกับญัตติที่นำเสนอ
ทั้งนี้ นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่าประเทศไทยมี พ.ร.บ.การพนัน มาตั้งแต่ปี 2478 ดังนั้น หากมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาศึกษาเรื่องนี้อย่างรอบคอบในทุกมิติสังคม ก็จะช่วยให้ประเทศสามารถจัดเก็บภาษีได้เพิ่มมากขึ้น สามารถเช็กประวัติข้อมูลอาชญากรรมได้ ป้องกันการทุจริตในวงราชการที่มีการส่งส่วย หักหลังและฟ้องร้องกัน แก้ปัญหาบ่อนพนันที่เปิดไม่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยควบคุมโซนในการจัดตั้งบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย ศึกษาจุดอ่อนและจุดแข็ง ควบคุมและป้องกันความปลอดภัย เพราะประเทศเพื่อนบ้านต่างมีบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย หากไทยมีสถานบันเทิงแบบครบวงจร ก็จะช่วยดึงดูดเงินจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้ แก้ปัญหานักท่องเที่ยวที่ลดลงจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่อย่างไรก็ตาม เงินภาษีที่ได้จากการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร ต้องนำกลับมาช่วยเหลือสังคมและดูแลผู้ยากไร้ด้วย
นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข ส.ส.ตาก พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายว่า การสร้างสถานบันเทิงแบบครบวงจรจะเป็นการสร้างแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของประเทศไทย ที่จะช่วยให้ประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แต่การตั้งกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาศึกษาเรื่องนี้จะต้องมีการสอบถามความเห็นจากประชาชนด้วยเพื่อให้มีส่วนร่วมในการออกกฎเกณฑ์ร่วมกันและทำไปด้วยความรอบคอบ โดย กมธ.จะนำเสนอเสนอให้รัฐบาลพิจารณา ส่วนรัฐบาลจะเห็นด้วยหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับคณะรัฐมนตรีว่าจะให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปอย่างไร
นายนพดล แก้วสุพัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท อภิปรายว่า หลังมีการตั้ง กมธ.แล้วก็คงจะได้ข้อสรุปในการจัดเก็บรายได้จากการพนันในรูปแบบต่าง ๆ และธุรกิจครบวงจร ซึ่งจะเกิดรายได้แก่ประเทศและเกิดการพัฒนาสวัสดิการต่าง ๆ ของประเทศ ซึ่งกฎหมายต้องมีความน่าเชื่อถือ ไม่มัวเมาประชาชน และเน้นเป็นสถานบันเทิงแบบครบวงจรที่พ่วงด้านการท่องเที่ยวเพื่อรองรับนักท่อเที่ยวชาวต่างชาติด้วย ซึ่งจะทำให้ประเทศมีรายได้มากขึ้น
นายแพทย์จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย กล่าวอภิปรายว่า เรื่องตู้เกมพนัน สล็อตแมชชีนต่าง ๆ ผุดขึ้นจำนวนมากละเกิดปัญหาแก่เยาวชนและสังคม จะต้องได้รับการแก้ไข และการจัดตั้งสถานบันเทิงแบบครบวงจรนั้น จะต้องไม่มีเฉพาะบ่อนกาสิโน แต่ต้องมีการส่งเสริมสิ่งที่ดี ๆ ด้านการท่องเที่ยว อารยธรรม วัฒนธรรมเข้าไว้ด้วย โดยเลือกพื้นที่ที่เหมาะสม มีรัฐบาลเป็นเจ้าภาพดูแล ในแง่ของกฎหมายจะต้องควบคุมให้ดี ป้องกันผู้ที่มีรายได้น้อยไม่ถูกชักชวนหรือล่อลวงให้เข้าสู่บ่อนกาสิโน โดยกมธ.ต้องศึกษาจุดอ่อน จุดแข็ง โอกาสและอุปสรรคให้ครบถ้วน พร้อมด้วยการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน
ขณะที่นายสมเกียรติ ไชยวิสุทธิกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นายมงคลกิตต์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยศรีวิไลย์ นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทรักธรรม และนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ต่างอภิปรายเห็นด้วยไปในทิศทางเดียวกันในการสนับสนุนให้มีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษากรณีดังกล่าว ซึ่งจะช่วยให้ประเทศมีรายได้เพิ่มมากขึ้นจากการเก็บภาษีจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เป็นการนำเงินจากใต้ดิน และบ่อนเถื่อนมาใช้อย่างถูกต้อง
นอกจากนี้ จะต้องควบคุมอายุผู้เล่นต้องมีอายุเกิน 20 ปีขึ้นไป มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นบาท และให้สามารถเล่นได้เพียง 5% จากรายได้ หรือต้องมีรายได้ที่ 5 แสนบาทในบัญชี จึงจะให้เข้าบ่อนกาสิโนได้ หรือไม่เช่นนั้นก็จำกัดเฉพาะให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเท่านั้นที่เข้าบ่อนกาสิโนได้ โดยเป็นการทดลองเบื้องต้นก่อน จากนั้นจึงให้คนไทยสามารถเข้าไปเล่นในบ่อนกาสิโนได้ ส่วนภาษีที่ได้นั้นควรนำไปช่วยเหลือผู้สูงอายุ ที่สังคมไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในไม่กี่ปีนี้ และนำไปพัฒนาชุมชนด้วย
ภายหลังจากสมาชิกได้อภิปรายกันประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง ประธานได้ให้สมาชิกเสียบบัตรแสดงตนเพื่อนับองค์ประชุม ซึ่งปรากฏว่าองค์ประชุมครบ จากนั้นประธานได้ขอให้สมาชิกเสียบบัตรเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย หรืองดออกเสียง ต่อการเสนอญัตติดังกล่าว ซึ่งปรากฏว่าเสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุมเห็นชอบให้มีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญฯ ทั้งสิ้น 310 เสียง ไม่เห็นด้วย 9 เสียง งดออกเสียง 10 เสียง ไม่ลงคะแนนไม่มี จากจำนวนสมาชิกทั้งหมด 329 คน
จากนั้นประธานได้เสนอให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อแปรญัตติฯ ซึ่งมีทั้งสิ้น 60 คน แบ่งเป็นสัดส่วนกรรมาธิการจาก ครม. 15 คน และจากพรรคการเมืองต่าง ๆ อีก 45 คน โดยพรรคเพื่อไทย 13 คน พรรคพลังประชารัฐ 11 คน พรรคภูมิใจไทย 6 คน พรรคก้าวไกล 5 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 1 คน พรรคเสรีรวมไทย 1 คน พรรคประชาชาติ 1 คน พรรคเศรษฐกิจใหม่ 1 คน และพรรคเพื่อชาติ 1 คน โดยให้ใช้เวลาศึกษาทั้งสิ้น 90 วัน
สำหรับรายชื่อกรรมาธิการทั้ง 60 คนนั้น ขอยกตัวอย่างรายชื่อให้ทราบบางรายชื่อดังนี้ อาทิเช่น นายสุทัศน์ เงินหมื่น นายชัชวาลล์ คงอุดม นายไผ่ ลิกค์ และนายมงคลกิตต์ สุขสินธารานนท์ เป็นต้น
ด่วน ครม.ไฟเขียว "ผลศึกษาสถานบันเทิงครบวงจร" สั่งคลังสรุป 30 วัน
09 เมษายน 2567สภาฯ เห็นชอบ ผลรายงานศึกษา เปิดสถานบันเทิงครบวงจร หลังวุ่น ท้านับองค์ประชุม
28 มีนาคม 2567รัฐบาลเดินหน้า ‘กาสิโน’ เรือธงใหม่ดันเศรษฐกิจ ?
11 มีนาคม 2567บอร์ดสลากฯสั่งเพิ่มสลากดิจิทัลอีก 1 ล้านใบ – พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่สู้หวยประเทศเพื่อนบ้าน
12 มกราคม 2567ปลัดคลัง สั่งทบทวนสลาก N3 ใหม่ ตั้งโจทย์แก้หวยใต้ดิน-สู้หวยเพื่อนบ้าน
23 ตุลาคม 2566