ตอนที่ 9 ทำไมคนหันมาเล่นพนันออนไลน์? และมีพฤติกรรมในการเล่นอย่างไร?

โดย ณัฐกร วิทิตานนท์

ตอนที่ 9 ทำไมคนหันมาเล่นพนันออนไลน์? และมีพฤติกรรมในการเล่นอย่างไร?

เว็บคอลัมน์ ถอดรหัสคาสิโนออนไลน์

ตอนที่ 9 ทำไมคนหันมาเล่นพนันออนไลน์? และมีพฤติกรรมในการเล่นอย่างไร?

โดย ณัฐกร วิทิตานนท์ [1]

 

คำถามข้อแรกไม่ยากนัก เชื่อว่าผู้อ่านหลายคนก็คงจะตอบได้ในทันทีว่าคือ ความสะดวก และเข้าถึงง่าย (Convenience and Ease of Access) เช่นเดียวกับงานวิจัยจำนวนมากพูดเป็นเสียงเดียวกัน ทำนองนี้ โดยเฉพาะกับงานวิจัยหลายชิ้นที่พูดถึงไปบ้างแล้วในหลายตอนก่อนหน้านี้

Sally Gainsbury (2012) พบว่าความสะดวกเป็นข้อดีอันดับต้น ๆ ของการพนันทางอินเทอร์เน็ต โดยกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ให้เหตุผลสนับสนุนดังนี้ เนื่องจากเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง (57%) ไม่ต้องขับรถออกจากบ้านเพื่อไปเล่น (51%) ตลอดจนรู้สึกว่าการเล่นพนันจากบ้านของตนเองปลอดภัย และรู้สึกคุ้นเคยกับสภาพบรรยากาศ อีกทั้งเมื่อเล่นพนันจากที่บ้านทำให้ผู้เล่นสามารถควบคุมเวลาและกิจกรรมอื่น ๆ ที่ต้องทำในชีวิตได้ดีกว่า ช่วยลดค่าใช้จ่ายจิปาถะที่ตามมา เช่น ค่าอาหาร-เครื่องดื่ม ค่าน้ำมัน ค่าที่พัก

งานศึกษากลุ่มนักเรียนในอังกฤษที่เล่นพนันออนไลน์ก็ให้น้ำหนักเรื่องความสะดวกมากที่สุด เพราะสามารถเล่นได้ทุกเวลาไม่ว่าเวลาไหนก็ตาม กลุ่มนักเรียนฮ่องกงร้อยละ 54.3 ตอบว่าเลือกเล่นพนันออนไลน์ด้วยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย โดยมากถึงร้อยละ 94.3 เล่นอยู่กับบ้าน ผู้เล่นทั่วไปในออสเตรเลียเห็นว่าสะดวกเพราะไม่ต้องออกจากบ้านไปยังที่อื่น (54.9%) สามารถเข้าถึงง่ายได้ตลอด 24 ชั่วโมง (46.2%) ไม่ต้องเจอคนที่ไม่ปรารถนา (29.5%) บรรยากาศไม่แออัด (31.4%) ความเป็นส่วนตัวและความไร้ตัวตนของผู้เล่น (28.5%) สมาคมการพนันแห่งอเมริกาก็พบเหตุผลหลักในการเล่นพนันออนไลน์ไม่ต่างกันคือ มีความสะดวกสบาย (48%) รู้สึกสนุกสนาน/ตื่นเต้น/บันเทิง (24%) ไม่ต้องขับรถไกล (24%) เป็นต้น

แม้งานบางชิ้นเปลี่ยนวิธีการไปใช้คำถามปลายเปิด คำตอบที่ได้ก็เช่นเดิม เมื่อถามถึงข้อดีของการพนันออนไลน์ ผู้ตอบส่วนใหญ่ (3,925 รายจากกลุ่มตัวอย่าง 6,654 ราย) ระบุว่าเพราะความง่ายและความสะดวกเป็นอันดับแรก ซึ่งมันเข้ากันได้อย่างดีกับวิถีชีวิตของสังคมสมัยใหม่

ข้างต้นสะท้อนให้เห็นว่า ในสายตาของคนจำนวนไม่น้อยมองคาสิโนแบบดั้งเดิมด้วยความไม่สบายใจ โดยเฉพาะในแง่ความปลอดภัยในการเล่น ทว่าคาสิโนออนไลน์สามารถเข้ามาชดเชย ช่วยให้ความรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องนี้ดีขึ้น

 

นอกจากปัจจัยหลักดังกล่าวแล้ว ยังพบปัจจัยรองอยู่หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเชื่อมั่นที่มีต่อผู้ประกอบการ (การันตีว่าเราจะไม่ถูกโกง) เหตุผลส่วนตัวของผู้เล่น เช่น ได้รับการยอมรับในหมู่เพื่อนฝูง เกิดความภาคภูมิใจในตนเอง (Self Esteem) แสวงหาความสนุกสนาน สร้างสีสันให้ชีวิต หนีออกจากปัญหาประจำวันที่ต้องเผชิญได้ชั่วขณะหนึ่งก็ยังดี ซึ่งข้อนี้เองก็คล้ายกับเหตุผลของคนที่เล่นการพนันแบบปกติธรรมดาทั่วไป

รวมทั้งสาเหตุปลีกย่อยอื่น เช่น ผู้เล่นบางส่วนเล่นพนันออนไลน์เพราะถูกกระตุ้นเร้าจากโฆษณาหรือโปรโมชั่น, เพราะในสถานที่เล่นการพนันไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่/ดื่มเหล้า เล่นอยู่ที่บ้านจึงดีกว่า, คาสิโนออนไลน์ทำให้ผู้เล่นสามารถหลอกเป็นเพศตรงข้าม ตบตาผู้ซึ่งตนกำลังเล่นพนันอยู่ด้วยได้ เช่น หลอกว่าเป็นผู้ชายเพื่อให้การเล่นดูขึงขึงหรือหลอกว่าเป็นผู้หญิงเพื่อให้อีกฝ่ายยอมใจอ่อน, ผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องใช้เวลาอยู่ที่บ้าน พนันออนไลน์ช่วยเข้ามาเติมเต็ม เพราะสามารถเล่นได้ไปพร้อมกันขณะกำลังเลี้ยงลูกและทำงานบ้าน

Wood กับ Williams (2007) สรุปถึงแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้คนหันมาเล่นพนันออนไลน์ออกเป็นข้อ ๆ อย่างกระชับ ดังนี้ 

(1) ความสะดวก สบาย และง่าย 

(2) ไม่ชอบบรรยากาศและกลุ่มลูกค้าในคาสิโนแบบเดิม 

(3) คุณสมบัติในการตั้งค่า และคุณลักษณะของระบบเกม และ 

(4) อัตราได้พนันสูงกว่าและเสียพนันต่ำกว่า

ส่วนคำถามข้อที่สองนั้น ค่อนข้างตอบลำบาก ต้องแยกพิจารณาเป็นด้าน ๆ โดยอ้างอิงงานวิจัยมาช่วยตอบ ซึ่งไม่สามารถนำไปใช้อธิบายนักพนันออนไลน์ในทุกสังคมได้ แต่พอทำให้เราได้เห็นภาพคร่าว ๆ อยู่บ้าง

ประเภทการพนัน ผลสำรวจที่มีออกมาหลายครั้ง (ส่วนใหญ่ทำในสหรัฐอเมริกา) ยืนยันตรงกันว่า แบล็กแจ็กได้รับความนิยมมากที่สุด รองลงมาสลับกันระหว่างสล็อตแมชชีนกับวีดิโอโป๊กเกอร์ บาคาราไม่เป็นที่นิยมมากนักในตลาดนี้ (ผิดกับตลาดเอเชีย ซึ่งยังไม่มีผลการศึกษาออกมารองรับมากเท่าที่ควร) เอาเข้าจริงแล้วก็ไม่ตายตัว คนเดียวเล่นการพนันหลายชนิดไม่ใช่เรื่องแปลก

อย่างไรก็ตาม ประเภทของการพนันมีความสัมพันธ์กับเรื่องเพศและอายุด้วย การพนันกีฬา ม้าหรือสุนัขแข่ง เกมที่ต้องใช้ทักษะเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชาย ขณะที่ผู้หญิงนิยมเล่นเกมที่ไม่ซับซ้อน อย่างบิงโกกับลอตเตอรี่ กลุ่มผู้เล่นอายุน้อยนิยมเล่นพนันกีฬากับเว็บไซต์โดยตรง ส่วนกลุ่มผู้เล่นอายุมากมักใช้การส่งข้อความผ่านเอเย่นต์ เนื่องจากไม่ค่อยถนัดต่อการใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อน

รูปแบบการเข้าถึง การพนันออนไลน์เอื้ออำนวยให้ผู้เล่นสามารถเข้าถึงได้จากหลายสถานที่ ทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน สถานศึกษา และหลายทาง ไม่ว่าผ่านหน้าจอมือถือ หรืออุปกรณ์พกพาต่าง ๆ ซึ่งบ้านพักถือเป็นสถานที่หลักของผู้เล่นพนันออนไลน์ รองลงมาคือ สถานที่ทำงาน เช่นงานวิจัยของ Wood กับ William ซึ่งถามผู้เล่นการพนันออนไลน์ว่าเล่นที่ใดเป็นหลัก คำตอบที่ได้คือกว่าร้อยละ 87 เล่นที่บ้าน มีเพียงร้อยละ 4.3 เท่านั้นที่รับว่าเล่นที่ทำงาน และด้วยผู้เล่นพนันออนไลน์ส่วนใหญ่มีงานประจำ ทำให้ช่วงเวลาในการเล่นพนันส่วนใหญ่อยู่ตอนเย็น โดยเฉพาะในช่วง 18.00-00.00 น. มากถึง 64% เล่นช่วงบ่ายแค่ 16% และราว 10% เท่านั้นที่เล่นระหว่าง 00.00-06.00 น.

ค่าใช้จ่ายเพื่อเล่นพนัน งานวิจัยบางชิ้นชี้ชัดว่ารายจ่ายเพื่อการพนันของผู้เล่นพนันออนไลน์มากกว่าผู้เล่นพนันแบบเก่า โดยเปรียบเทียบจากค่าใช้จ่ายเพื่อการพนันแบบเฉลี่ยรายเดือน และในกรณีรูเล็ตออนไลน์ ผลการศึกษาก็ออกมาว่าผู้เล่นแบบออนไลน์ลงพนันมากกว่าผู้เล่นแบบออฟไลน์ เมื่อพิจารณาภาพรวมของการเล่นในแต่ละคราว อีกประเด็นน่าสนใจคือ ผู้ชายมีแนวโน้มที่จะหมดค่าใช้จ่ายไปกับการพนันออนไลน์มากกว่าผู้หญิง

 

{#Online-Roulette.jpg}

 

นักพนันขณะกำลังเล่นรูเล็ตออนไลน์ผ่านมือถือ [2]

 

งานศึกษาของ eCOGRA ปี 2007 ระบุว่าผู้เล่นพนันออนไลน์ลงเงินต่อครั้ง (Stake) อยู่ที่ 30-60 เหรียญสหรัฐ (หรือ 1,000-2,000 บาท ณ อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน) งานวิจัยเมื่อปี 2009 พบว่าผู้เล่นในแคนาดาส่วนใหญ่ (55%) ลงพนันน้อยกว่า 25 เหรียญแคนาดาต่อครั้ง (เกือบ 600 บาทไทย) แต่เมื่อคิดเป็นรอบแล้ว (Session) มากถึง 49% ที่ลงพนันรวมกันมากกว่า 1,000 เหรียญแคนาดา (หรือตกเป็นเงินไทยประมาณ 23,000 กว่าบาท) อย่างไรก็ดี จากรายงานของ bwin ผู้ให้บริการพนันกีฬารายใหญ่ของยุโรป โดยติดตามการใช้จ่ายผ่านของผู้เล่นกว่า 4 หมื่นบัญชีในระยะเวลา 8 เดือน พบว่าผู้ซึ่งเล่นพนันกีฬาควบคุมการเล่นการพนันของตนได้ดี ส่วนใหญ่วางเดิมพันเพียงครั้งละไม่เกิน 5 ยูโร (200 บาท) มีเพียงร้อยละ 2-3 เท่านั้นที่ลงพนันรวมกันในห้วงเวลาดังกล่าวเกินกว่า 10,000 ยูโร (350,000 บาท) และลูกค้ากลุ่มนี้ (ที่เล่นเฉพาะพนันกีฬา) เล่นได้-เสียน้อยกว่ากลุ่มลูกค้าซึ่งเล่นโป๊กเกอร์ออนไลน์อย่างเห็นได้ชัด

ระยะเวลาที่ใช้ ผู้เล่นโดยมากใช้เวลาน้อยกว่า 2 ชั่วโมง หรืออาจเป็นช่วงสั้นกว่านั้น รายงานของ eCOGRA ข้างต้นก็พบว่าผู้เล่นส่วนใหญ่เล่นพนันออนไลน์ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ และเล่นครั้งละราว 1-2 ชั่วโมง วิจัยของ Robert J. Williams และคณะพบว่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์แล้วผู้เล่นพนันออนไลน์ใช้เวลาไปราว 5 ชั่วโมง และมีเพียงแค่ร้อยละ 4 เท่านั้นที่ระบุว่าเล่นมากกว่า 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ผลวิจัยในออสเตรเลียพบว่าผู้ที่เล่นพนันออนไลน์คนเดียวตามลำพังจะใช้เวลามากกว่าผู้ที่เล่นพนันร่วมกับผู้อื่นเช่นเพื่อนหรือคนในครอบครัว.

 

รายการอ้างอิง

[1] อาจารย์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่

[2] ที่มาของภาพ: https://www.ft.com/content/02057249-2b67-44c8-b9fd-9d16d4b228ca 

 

ที่มาของข้อมูล

- Robert T. Wood and Robert J. Williams, “Internet Gambling: Past, Present, and Future,” in Garry Smith, David C. Hodgins and Robert J. Williams, Research and Measurement Issues in Gambling Studies, (Burlington: Elsevier, 2007), 491-514. 

- Robert T. Wood and Robert J. Williams, “The Casino City Study A Large-scale International Study of Online Gamblers,” in Robert J. Williams, Robert T. Wood and Jonathan Parke (Editors), Routledge International Handbook of Internet Gambling, (New York: Routledge, 2012), 103-.125.

- Sally Gainsbury, Internet Gambling: Current Research Findings and Implications, (New York: Springer, 2012).