เป็นการศึกษาแบบเชิงวิเคราะห์แบบภาคตัดขวาง (Cross-sectional analytical study) มีวัตถุประสงค์ เพื่อวัดความชุกของการเล่นการพนันออนไลน์ การเล่นการพนันออฟไลน์ ปัญหาการพนัน วัดระดับทัศนคติต่อการเล่นการพนันและภาวะซึมเศร้าและทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างการเล่นการพนันออนไลน์ การเล่นการพนันออฟไลน์ ทัศนคติต่อการเล่นการพนันและภาวะซึมเศร้ากับปัญหาการพนันและเพื่อทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างปัญหาการพนันกับภาวะซึมเศร้าของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา จังหวัดเพชรบูรณ์ ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 โรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเพชรบูรณ์ คำนวณขนาดตัวอย่างจากสูตรประมาณค่าสัดส่วน ได้ขนาดตัวอย่าง 2,500 คน ทำการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่ม 2 ขั้นตอน (Two-stage cluster random sampling) ได้โรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ 1 แห่ง ขนาดใหญ่ 1 แห่ง ขนาดกลาง 1 แห่งและขนาดเล็ก 1 แห่ง รวม 4 แห่ง เครื่องมือเป็นแบบสอบถาม เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการให้ตอบแบบสอบถาม ณ ห้องเรียน เก็บรวบรวมข้อมูลได้กลุ่มตัวอย่าง 3,744 คน คิดเป็น 100% ของเป้าหมาย ใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้สถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ Multiple ordinal logistic regression
ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุอยู่ในช่วง 14-15 ปีมากที่สุด เฉลี่ย 15 ปี ประมาณ 2 ใน 5 ของกลุ่มตัวอย่าง กำลังศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 3 ประมาณ 2 ใน 5 ของกลุ่มตัวอย่างมีบิดาหรือมารดาจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษา ประมาณ 3 ใน 5 ของกลุ่มตัวอย่าง ได้รับเงินจากผู้ปกครองเป็นค่าค่าใช้จ่ายต่อวันต่ำกว่า 100 บาท (ร้อยละ 59.9) ค่ากลาง 70 บาท กลุ่มตัวอย่างมีความชุกของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร้อยละ 17.8 และสูบบุหรี่ไฟฟ้า ร้อยละ 8.7 ประมาณ 1 ใน 5 ของกลุ่มตัวอย่างมีมารดาเล่นการพนัน ประมาณ 1 ใน 10 ของกลุ่มตัวอย่างมีเพื่อนสนิทเล่นการพนัน และกลุ่มตัวอย่างมีเพื่อนสนิทติดการพนัน ร้อยละ 4
กลุ่มตัวอย่างมีความชุกของการเล่นการพนันในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมาทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ร้อยละ 6.8 กลุ่มตัวอย่างมีความชุกของการเล่นการพนันออฟไลน์ ร้อยละ 10.8 ประเภทการพนันออฟไลน์ที่นิยมเล่นมากที่สุด ได้แก่ พนันไพ่ หวยใต้ดินและสลากกินแบ่งรัฐบาล กลุ่มตัวอย่างมีความชุกของการเล่นการพนันออนไลน์ ร้อยละ 10.7 ประเภทการพนันออนไลน์ที่นิยมเล่นมากที่สุด ได้แก่ พนันไพ่และพนันเกม ช่องทางในการเล่นส่วนใหญ่นิยมเล่นผ่านไลน์/แอพแชทต่าง ๆ และเล่นโดยตรงกับเว็บไซต์และแอพพนัน อุปกรณ์ที่ใช้เล่นใช้ส่วนใหญ่เป็นโทรศัพท์มือถือ ความถี่ของการเล่นการพนันออนไลน์จะเล่นนาน ๆ ครั้ง และจำนวนเงินที่ใช้เล่นจะต่ำกว่า 100 บาทต่อวัน เหตุผลสำคัญในการเล่นการพนันออนไลน์ ได้แก่ สะดวก ง่าย เล่นได้ทุกที่ทุกเวลา เพื่อนชวนหรือเล่นเพื่อเข้ากลุ่มกับเพื่อน ลดความเครียดและฝาก-ถอนเงินจากระบบอย่างรวดเร็ว ประมาณ 1 ใน 2 ของกลุ่มตัวอย่างมีทัศนคติที่ดีต่อการเล่นการพนัน กลุ่มตัวอย่างมีภาวะซึมเศร้าอยู่ในระดับมากถึงรุนแรง ร้อยละ 12.3 กลุ่มตัวอย่างมีความชุกของปัญหาการพนันในระดับมีปัญหาการติดพนัน ร้อยละ 2.7 ระดับความเสี่ยงปานกลาง ร้อยละ 5.2 และระดับความเสี่ยงต่ำ ร้อยละ 2.9
ความถี่ของการเล่นการพนันออนไลน์มีความสัมพันธ์กับปัญหาการพนันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยพบว่า ความถี่ของการเล่นการพนันออนไลน์นาน ๆ ครั้ง (adjusted odds ratio [AOR] = 2.37; 95% confidence interval [CI] = 1.49-3.78) ความถี่ของการเล่นการพนันออนไลน์บางครั้ง (AOR = 3.28; 95%CI = 1.68-6.40) และความถี่ของการเล่นการพนันออนไลน์ประจำ (AOR = 6.37; 95%CI = 2.73-14.86) มีความสัมพันธ์กับปัญหาการพนันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ นอกจากนั้นยังพบว่า การมีภาวะซึมเศร้าระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง (AOR = 1.67; 95%CI = 1.10-2.51) การมีภาวะซึมเศร้าระดับมากถึงรุนแรง (AOR = 2.34; 95%CI = 1.28-4.27) การมีเพื่อนสนิทติดการพนัน (AOR = 1.90; 95%CI = 1.05-3.44) กลุ่มอายุ 18 ปีขึ้นไป (AOR = 2.63; 95%CI = 1.12-6.21) การได้รับเงินเป็นค่าใช้จ่ายจากผู้ปกครอง 100 บาทขึ้นไป (AOR = 1.49; 95%CI = 1.03-2.14) และการสูบบุหรี่ (AOR = 1.87; 95%CI = 1.05–3.34) มีความสัมพันธ์กับปัญหาการพนันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ปัญหาการพนันมีความสัมพันธ์กับภาวะซึมเศร้าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยพบว่า ปัญหาการพนันระดับมีปัญหาการติดพนัน (AOR = 2.93; 95%CI = 1.71-5.03) มีความสัมพันธ์กับภาวะซึมเศร้าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ นอกจากนั้น นอกจากนั้นยังพบว่า ความถี่ของการเรียนออนไลน์ประจำ (AOR = 1.48; 95%CI = 1.20-1.81) เพศหญิง (AOR = 2.43; 95%CI = 2.12-2.78) การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (AOR = 1.45; 95%CI = 1.20–2.78) และการสูบบุหรี่ (AOR = 1.60; 95%CI = 1.12–2.31) มีความสัมพันธ์กับภาวะซึมเศร้าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ดังนั้น หน่วยงานในระดับนโยบายควรออกกฎหมายและมาตรการเพื่อลดการเข้าถึงการเล่นการพนันออนไลน์ โรงเรียนและผู้ปกครองควรมีมาตรการเบื้องต้นเพื่อป้องกันการเล่นการพนันออนไลน์ โรงเรียน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ปกครองควรจัดระบบเฝ้าระวัง การคัดกรองปัญหาการเล่นการพนันออนไลน์และปัญหาการพนันในนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา โรงเรียนและกระทรวงสาธารณสุขควรจัดกิจกรรมการส่งเสริมสุขภาพจิตเพื่อลดปัญหาการพนันในนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา
ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการเล่นการพนันออนไลน์กับปัญหาการพนันของนักเรียนมัธยมศึกษาจังหวัดเพชรบูรณ์
โดย ไพฑูรย์ สอนทน, นฤมล จันทร์มา, อัมพร สอนทนมาตรการการจัดเก็บภาษีอากรและค่าธรรมเนียมจากรายได้ภาคธุรกิจคาสิโน
โดย กาญจนุรัตน์ ไมรินทร์การศึกษาพฤติกรรมและผลกระทบการเล่นพนันของประชากรครัวเรือนเปราะบางในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ
โดย รพีภัทร ศรีไกรภักดิ์การพนันในจีนและผลกระทบต่อภูมิภาคอาเซียน
โดย อาร์ม ตั้งนิรันดร, กุลนรี นุกิจรังสรรค์, กรองจันทน์ จันทรพาหา