• จุลสาร
  • งานวิจัย
  • หนังสือ

รายงานสถานการณ์การพนันในสังคมไทย ปี 2564

โดย CGS

•  โครงการศึกษาสถานการณ์ พฤติกรรม และผลกระทบการพนันในประเทศไทย ประจำปี 2564 ของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนันดำเนินการสำรวจและประมวลผลโดย ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ เก็บข้อมูลกับประชาชนทั่วไปที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ใน 24 จังหวัด ระหว่างวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ถึง 8 เมษายน 2564 รวม 6,977 ตัวอย่าง พบว่า ปี 2564 คนไทยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการเปิดพนันทายผลฟุตบอลและบ่อนคาสิโนถูกกฎหมาย กล่าวคือ ร้อยละ 55.7 ไม่เห็นด้วยกับการเปิดพนันทายผลฟุตบอลถูกกฎหมาย ขณะที่ร้อยละ 27.4 เห็นด้วย ที่เหลือตอบว่า ไม่แน่ใจ และร้อยละ 54.1 ไม่เห็นด้วยกับการเปิดบ่อนคาสิโนถูกกฎหมาย ขณะที่ร้อยละ 29.7 เห็นด้วย ที่เหลือตอบว่า ไม่แน่ใจ โดยร้อยละ 65.6 เห็นว่า หากเปลี่ยนการพนันที่เคยผิดกฎหมายให้ถูกกฎหมายจะมีผลทำให้คนเล่นพนันเพิ่มขึ้น นอกจากนั้น คนไทยยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการพนัน คือร้อยละ 52.6 คิดว่าการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลไม่ถือว่าเป็นการพนัน และร้อยละ 27.4 คิดว่าการซื้อหวยใต้ดินไม่ถือว่าเป็นการพนัน

•  ปี 2564 คนไทยเล่นการพนันร้อยละ 59.6 หรือประมาณ 32.33 ล้านคน เพิ่มขึ้นประมาณ 1.9 ล้านคนเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2562 ในจำนวนนี้เป็นผู้ที่เล่นพนันครั้งแรกในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา หรือเรียกว่า “นักพนันหน้าใหม่” เกือบ 8 แสนคน โดยทั้งเพศชาย เพศหญิง และทุกช่วงวัยมีสัดส่วนคนเล่นพนันเพิ่มขึ้น ที่น่ากังวลใจคือ ร้อยละ 29.5 ของประชากรเด็ก อายุ 15-18 ปี เล่นการพนัน มีวงเงินหมุนเวียนรวม 29,155 ล้านบาท และร้อยละ 54.6 ของเยาวชน อายุ 19-25 ปี เล่นการพนัน มีวงเงินหมุนเวียนรวม 93,321 ล้านบาท ทั้งสองกลุ่มมีสัดส่วนคนเล่นเพิ่มขึ้นและวงเงินพนันหมุนเวียนเพิ่มขึ้นมากเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2562

•  การพนันยอดนิยมของคนไทยยังคงเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาลและหวยใต้ดิน แม้วงเงินหมุนเวียนในตลาดตลอดทั้งปีจะลดลง เพราะสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลงดออกรางวัล 3 งวด แต่จำนวนนักพนันกลุ่มนี้กลับเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มอายุ และพบคนอายุต่ำกว่า 20 ปี ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลมากถึง 7.024 แสนคน ทั้งที่บนหน้าสลากฯระบุว่า “ไม่ขายไม่ซื้อสลากกับคนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี” เพราะเป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2562 อีกประเด็นหนึ่งที่ต้องติดตามคือ การขยายตัวอย่างก้าวกระโดดของตลาดหวยอื่นๆ โดยเฉพาะหวยต่างประเทศและหวยหุ้น แม้คนไทยเล่นพนันประเภทนี้เพียงร้อยละ 2.5 แต่ปี 2564 สัดส่วนคนเล่นพนันและวงเงินพนันหมุนเวียนในตลาดของหวยอื่นๆ เพิ่มขึ้นกว่า 100% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2562 โดยส่วนใหญ่เล่นกับคนรับแทง/คนเดินโพยเหมือนกับหวยใต้ดิน แต่กลุ่มนี้มีสัดส่วนคนเล่นโดยตรงกับเว็บไซต์/แอพฯพนันถึงร้อยละ 23.7 และมีวงเงินพนันหมุนเวียนในช่องทางออนไลน์ร้อยละ 38 

•  การแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 ทำให้การพนันในบ่อนแบบมีที่ตั้งซบเซา ปี 2564 คนไทยเล่นการพนันในบ่อนแบบมีที่ตั้ง ร้อยละ 7.7 หรือประมาณ 4.181 ล้านคน ลดลงร้อยละ 16.1 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2562 นักพนันส่วนใหญ่เล่นพนันภายในชุมชน มีเพียงร้อยละ 0.9 เล่นพนันที่บ่อนชายแดน(ประเทศเพื่อนบ้าน) ร้อยละ 0.5 เล่นพนันที่บ่อนถาวรในประเทศ และร้อยละ 0.2 เล่นพนันที่บ่อนต่างประเทศ(ไม่ติดชายแดน) ในทางตรงกันข้าม การพนันในบ่อนออนไลน์แม้จะมีจำนวนน้อยกว่า แต่ก็เติบโตเป็นประวัติการณ์ คือมีคนไทยเล่นพนันในบ่อนออนไลน์ ร้อยละ 3.6 หรือประมาณ 1.947 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 135.8 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2562 ประเภทการพนันยอดนิยมในบ่อนออนไลน์คือ บาคาร่า/ป๊อกเด้ง ถัดมาคือ สล๊อตแมชชีน/ตู้เกม เกมไพ่อื่น ฯลฯ

•  ด้านผลกระทบ พบว่า ร้อยละ 15.1 ของผู้ที่เล่นพนันในปี 2564 หรือประมาณ 4.882 ล้านคน ระบุว่าได้รับผลกระทบเชิงลบจากการพนัน ทั้งปัญหาการเงินและหนี้พนัน โดยเฉพาะการขาดเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและเป็นหนี้ ปัญหาสุขภาพและการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะเรื่องความเครียด/เสียสุขภาพจิต และปัญหาความสัมพันธ์และภาพลักษณ์ทางสังคม โดยเฉพาะการมีปากเสียงทะเลาะกับคนในครอบครัว โดยประมาณ 1.127 ล้านคนมีหนี้สินที่เกิดจากการพนันรวมกันประมาณ 15,307 ล้านบาท หรือเฉลี่ยที่คนละ 13,579 บาท เมื่อให้ผู้เล่นพนันประเมินว่าตนเองติดพนันหรือไม่ พบว่าร้อยละ 20.6 หรือประมาณ 6.668 ล้านคน ประเมินว่าตนเองติดการพนัน ขณะที่การประเมินโดย The Problem Gambling Severity Index – PGSI พบผู้มีพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นนักพนันที่มีปัญหา (Problem Gamblers) ประมาณ 3.512 ล้านคน เพศชายมีสัดส่วนมากกว่าเพศหญิง ที่น่ากังวลใจคือ กลุ่มนี้มีเด็ก 15-18 ปี 0.132 ล้านคน เยาวชน 19-25 ปี 0.472 ล้านคน และผู้สูงวัย 60 ปีขึ้นไป 0.234 ล้านคน ประเภทการพนันที่มีสัดส่วนนักพนันที่เป็นปัญหาสูงที่สุดคือ บ่อนออนไลน์ ถัดมาคือ หวยอื่นๆ พนันทายผลฟุตบอล บ่อนแบบมีที่ตั้ง หวยใต้ดิน และสลากกินแบ่งรัฐบาล แต่ในแง่จำนวน  สลากกินแบ่งฯพบนักพนันที่มีปัญหามากที่สุด