3PlusNews - แบงก์ชาติห่วง! ธุรกิจปรับตัวไม่ได้ หลังพายุเศรษฐกิจซัด เบรกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจแบบปูพรม ยันหั่นดอกเบี้ย 2 รอบติดเพียงพอรองรับผลกระทบภาษีทรัมป์ แต่หากสถานการณ์แย่ลงพร้อมทบทวนอีกครั้ง
นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเมินว่าพายุผลกระทบจากนโยบายภาษีของสหรัฐต่อเศรษฐกิจไทยนั้น มาแน่ แต่จะเริ่มเห็นในไตรมาส 3 และถึงจุดต่ำสุดในไตรมาส 4 ปีนี้ โดยนิยามลักษณะเศรษฐกิจไทยหลังจากนี้เป็นทรง V Shape ขากว้าง คล้ายเครื่องหมายติ๊กถูก พายุนี้จะพัดนาน ไม่จบเร็ว เพราะจำนวนประเทศที่ต้องเจรจามีมาก แต่หลังพายุพัดผ่าน ต้องมีช่วงปรับตัวที่ยาวนานเป็นปี
ไม่เพียงกลุ่มอุตสาหกรรมที่ส่งออกไปยังสหรัฐโดยตรง 5 กลุ่มที่จะได้รับผลกระทบ คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ ยางล้อ อาหารแปรรูป เครื่องจักร แต่ยังรวมไปถึงซัพพลายเชนที่เกี่ยวข้อง กับสินค้าส่งออกไปยังสหรัฐด้วย ที่เป็นห่วงที่สุดคือกลุ่มธุรกิจที่ผลิตสินค้าที่เสี่ยงกับการได้รับผลกระทบจากสินค้าจากประเทศอื่น ที่ทะลักเข้าไทย ซึ่งไม่ใช่แค่สินค้าจากจีนเท่านั้น และจะถูกกระทบในหลากหลายประเภทสินค้า
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าความลึกของการช็อกของภาวะเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น จะไม่รุนแรงไปกว่าวิกฤติเศรษฐกิจที่ผ่านมา เช่น วิกฤตการณ์เศรษฐกิจ ค.ศ.2008 หรือ วิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์, ต้มยำกุ้ง หรือ โควิด เช่น ตอนวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ส่งออกติดลบถึง 13% แต่จากการประเมินครั้งนี้ติดลบเพียงแค่ 1% โลกจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในหลากหลายด้าน เกิดการปรับตัว และคงอยู่อย่างสง่างามหลังพายุพัดผ่าน พร้อมเตือนไม่ให้ประชาชนตกใจเกินเหตุแต่ต้องเตรียมรับมือ เพราะเชื่อว่าความเป็นไปได้ที่จะเกิดพายุทางเศรษฐกิจเต็มที่หรือการจัดเก็บภาษีสูงตามที่ประกาศเชื่อว่ามีน้อย
ทั้งนี้ยอมรับว่าเป็นห่วงเนื่องจากโครงสร้างทางเศรษฐกิจไทย ทำให้ผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่ปรับตัวได้ยาก เห็นได้จากบทเรียนของวิกฤตเศรษฐกิจที่ผ่านมา รัฐบาลต้องออกมาตรการแบบไม่ปูพรม แต่ต้องเป็นมาตรการที่สอดคล้องเฉพาะกับแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม เพราะผลกระทบแตกต่างกันไป
เช่น กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าผู้ประกอบการส่วนใหญ่เป็นต่างชาติและเสี่ยงต่อการย้ายฐานการผลิต ก็ต้องหามาตรการที่ดึงดูดการลงทุนไว้ที่ไทย แต่ถ้าเป็นกลุ่มอาหารแปรรูป ใช้วัตถุดิบส่วนใหญ่จากในประเทศ เชื่อมโยงกับการผลิตกลุ่มรากหญ้า การใช้ฐานการผลิตไม่ง่าย ปรับตัวยาก อำนาจการต่อรองก็น้อย โดยเฉพาะรายเล็กที่มีอยู่มากในกลุ่มนี้ ก็ต้องหามาตรการที่สอดรับต่างกัน
ทำยังไงให้ภาวะช็อกที่เจอเบาลง อย่าให้ลึกมากนัก และช่วยเอื้อให้การปรับตัวทำได้เร็วและเศรษฐกิจโตได้ดีกว่าเดิมในระยะยาวหลังพายุผ่าน ซึ่งยอมรับว่าเป็นห่วงเรื่องการปรับตัวของธุรกิจไทย เนื่องจากโครงสร้างทางเศรษฐกิจทำให้ผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่ปรับตัวได้ยากเห็นได้จากบทเรียนของวิกฤตเศรษฐกิจที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามในแง่ภาคบริการโดยเฉพาะการท่องเที่ยว ซึ่งแม้ว่าจะเกิดภาวะชะลอตัวบ้างแต่เชื่อว่าจะยังคงขับเคลื่อนได้ดี
ทั้งนี้ ธปท.ยังคงยึดแนวทางการผสมผสานเครื่องมือเชิงนโยบาย (IPF) คือการดำเนินนโยบายการเงินควบคู่กับมาตรการอื่นๆ โดยเฉพาะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งปรับลดไป 0.25% 2 รอบติดนั้น มองว่าลูกกระสุนมันมีจำกัดคงต้องใช้อย่างระมัดระวังในอนาคต รวมทั้งดูแลการทำงานของตลาดการเงินที่ยอมรับว่าผันผวนในแบบที่ไม่เคยเห็นมานาน และมาตรการทางการเงินที่มีนั้น ยังเป็นช่องทางที่ใช้ได้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นมาตรการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม ที่เน้นปรับโครงสร้างหนี้ ที่ทำต่อเนื่อง เหมาะสมกับสถานการณ์
รวมทั้งมาตรการคุณสู้เราช่วย และพร้อม! หากจำเป็นต้องออกมาตรการเพิ่มเติม ซึ่งต้องรอดูว่าสถานการณ์จะหนักแค่ไหน อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าโครงการที่ผ่านมา ปล่อยสินเชื่อได้น้อย แต่ยืนยันว่าเงื่อนไขการปล่อยเหมาะสมแล้ว เพราะสถาบันการเงินแต่ละแห่งต้องพิจารณาภายใต้ความเสี่ยงที่มี
พร้อมกล่าวว่าต้องขอบคุณรัฐบาลที่รับฟังความเห็น ธปท. ที่จะทบทวนความเหมาะสมของโครงการแจกเงินดิจิทัล เพราะต้องดูเรื่องความคุ้มค่า ประสิทธิผลให้ดี และยิ่งยามนี้ที่สถานการณ์เศรษฐกิจเปลี่ยนไป ทั้งกรณีภาษีทรัมป์ บวกกับสินค้าจากต่างประเทศที่ทะลักเข้ามาในไทย ก็เป็นความเหมาะสมที่รัฐบาลจะทบทวน
ส่วนกรณีที่รัฐบาลจะเดินหน้าโครงการสถานบันเทิงครบวงจร (entertainment complex) นั้น นายเศรษฐพุฒิ กล่าวว่า โจทย์ใหญ่กว่าการดึงคนจำนวนมากเข้ามาในประเทศ คือการทำอย่างไรให้เติบโตอย่างยั่งยืน ขณะเดียวกันโลกให้ความสำคัญกับเรื่องภาพลักษณ์ การที่ทำอะไรที่มีความไม่ชัดเจน มีควาไม่แน่นอนสูง ในบริบทนั้นไทยจะถูกมองว่าทำตัวไม่ถูกต้อง ไม่ขาวสะอาด โดยเฉพาะเรื่องกาสิโนที่มองว่าเป็นความเสี่ยง ทำให้ภาพของประเทศมีความเป็นสีเทามากขึ้น
ในทางกลับกันหากมาเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจ โดยเฉพาะธุรกิจ Wellness ในยุคสังคมสูงวัย ซึ่งตลาดในส่วนนี้มีแนวโน้มการเติบโตสูง การรับนักท่องเที่ยวในกลุ่มจะช่วยตอบโจทย์เรื่องการยกระดับการสร้างมูลค่าเพิ่มได้เป็นอย่างดี และมีผลข้างเคียงน้อยกว่า
ผู้ว่าฯแบงก์ชาติห่วง “กาสิโน” ทำภาพลักษณ์ประเทศไทยสีเทา
09 พฤษภาคม 2568ครม.ผ่านร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร มีกาสิโนไม่เกิน 10%
03 เมษายน 2568มติราชบัณฑิตค้าน รบ.นำร่าง กม.กาสิโนเข้าสภา-ได้ไม่คุ้มเสีย สร้างสารพัดปัญหาร้ายแรง
02 เมษายน 2568มท. ยกร่าง พ.ร.บ.การพนัน ฉบับใหม่ ควบคุม-ลงโทษ “พนันออนไลน์”
30 มกราคม 2568ครม.ไฟเขียวร่างกฎหมาย "เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" ย้ำมีกาสิโนไม่ถึง 10%
13 มกราคม 2568