คมชัดลึก - (19 ม.ค.2566) นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล  พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และ รอง ศ.ดร. ธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการ  แถลงภายหลังการประชุมถึงแนวทางในการดำเนินงานของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล มุ่งเน้นความเข้มข้นเรื่องการขายสลากฯเกินราคาใบละ 80 บาท

รวมถึงจะมีการเพิ่มสลากฯ เข้ามาจากการตัดสิทธิผู้ที่แอบอ้าง หรือทำผิดเจตนารมย์ของกองสลากฯ ซึ่งในปีที่ผ่านมา มีการตัดสิทธิ์ไปแล้ว 16,000 ราย

เบื้องต้น ปี 2566 ได้ตรวจสอบพบแล้ว 10,000 ราย ที่จะต้องโดนตัดสิทธิ และหลังจากนี้ไปในช่วงเดือนธันวาคมปี 2566 สลากดิจิทัลจะเข้าถึงประชาชนมากขึ้น การขายสลากบนแผงลดลงถึง 80% และ 3 ปีต่อจากนี้ สลากครึ่งหนึ่งจะอยู่ในระบบสลากดิจิทัล เริ่มเพิ่มจากปีนี้ 30 ล้าน ปีต่อไป 40 ล้าน 50 ล้านไปเรื่อย ๆ

ในกรณีที่มีผู้ซื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นต่องวดอยู่ที่จำนวน 180,000 รายขึ้นไป เพราะในช่วงนี้สลากดิจิทัลจากแอปเป๋าตังค่อนข้างขายดี 10 วันก็ขายหมดแล้ว เนื่องมีผู้ซื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นงวดละ 200,000 คนเลยทีเดียว

สำหรับกติกาใหม่ในวันที่ 1 เมษายนนี้ จะมีลดจำนวนโควตาสลากฯลงเหลือคนละ 3 - 4 เล่ม เพื่อให้เพียงพอกับผู้ซื้อ และผู้จองทุกคน แต่ถ้าเห็นว่า 3 เล่มน้อยเกินไป ก็ต้องสมัครในระบบสลากดิจิทัลถึงจะขายได้ 5 เล่ม และเมื่อ L6 ได้รับความเห็นชอบ จะทำให้การทำสลากเป็นในรูปแบบเติมไม่ต้องพิมพ์ จำนวนสลากจะสามารถปรับเปลี่ยนได้ เพราะถ้าพิมพ์จำกัดจำนวน

ในส่วนของการดำเนินการแก้ปัญหาสลากเกินราคาและแพลตฟอร์มออนไลน์นั้น สำนักงานสลากฯ จะมีการดำเนินการอย่างจริงจังในทุกฐานความผิดจากทุกกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยได้มีการประชุมร่วมกับกรมสรรพากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมการปกครอง สำนักงานอัยการสูงสุดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงาน ปปง. กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อวางกรอบแนวทางการบูรณาการการทำงานร่วมกัน

ซึ่งจากนี้ไปจะเห็นการดำเนินคดีออกมาอย่างต่อเนื่อง  ผู้ที่ขายสลากเกินราคาจะโดนค่าปรับ และมีการตรวจค้นเก็บหลักฐานในแต่ละหน่วยงานไปดู  ส่วนเส้นทางทางการเงินส่วนบุคคลกองสลากฯจะไม่ได้เข้าไปก้าวล่วง  สำหรับในเรื่องลิขสิทธิได้เห็นการกระทำความผิดใน 2-3 เรื่องที่จะยื่นฟ้องต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญา ถือว่ามีความคืบหน้าที่น่าพอใจ  ส่วนเรื่องของ สคบ. มีความผิดชัดเจน ด้านของสรรพากรก็ยังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพราะถือเป็นธุรกิจออนไลน์ต่อไปนี้จะมีการติดตามตรวจสอบอย่างเข้มข้น  

และสืบเนื่องจากที่เข้าไปตรวจค้น จำนวนสลากที่ได้เจอ 11 ล้านฉบับ ขณะนี้ยังได้ข้อมูลไม่ครบ แต่จะมีการส่งมอบให้ภายในวันพรุ่งนี้ (20 ม.ค.) เนื่องจากต้องการที่จะพิสูจน์ว่าเป็นสลากจริง  เพื่อจะดูว่าที่ขายในระบบมีกี่ใบตรงกับที่ขายในระบบหรือไม่  วิธีการพิสูจน์ต้องดูที่มาที่ไป คือ จะต้องมีเจ้าของโควต้าถึงพิสูจน์ได้ว่าคือของจริง