ประชาชาติธุรกิจ - วันที่ 28 เมษายน 2565 นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต ฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สลากกินแบ่งรัฐบาลจะดำเนินการจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือสลากดิจิทัล(Digital Lottery) ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ในงวดวันที่ 16 มิ.ย. 65

โดยเริ่มจำหน่ายตั้งแต่เวลา 06.00 น. ของวันที่ 2 มิ.ย.65 เบื้องต้น จะมีการจำหน่ายสลากราคา 80 บาท อย่างน้อย 5 ล้านใบ จากตัวแทนรายย่อย 1 หมื่นราย ในเฟสแรก ซึ่งประชาชนจะมีสิทธิลุ้นรางวัลที่ 1 ในแพลตฟอร์มดังกล่าวถึง 5 ใบ

ทั้งนี้ จะมีการเปิดรับสมัครผู้ค้า เพื่อฝากขายสลากบนแอปเป๋าตัง ระหว่างวันที่ 3 – 18 พ.ค. 65 โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการฝากขาย ซึ่งผู้ค้าที่มีสิทธิสมัคร แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรก คือ ตัวแทนจำหน่าย ที่มีโควต้าสลากฯ อยู่แล้ว 5 เล่ม ทั้งที่เป็นนิติบุคคล หรือ รายย่อย และ กลุ่มที่ 2 คือ ผู้ค้าที่อยู่ในระบบจองซื้อล่วงหน้า ที่อยู่ในฐานข้อมูลตั้งแต่ปี2558

“กลุ่มที่ 2 จะเปิดรับสมัครเพียง 1 หมื่นสิทธิ แบบสมัครก่อนได้สิทธิก่อน ซึ่งหากมาสมัครเป็นผู้ค้าสลากดิจิทัล จะได้รับโควต้าสลากฯ ทันทีรายละ 5 เล่ม สัญญา 1 ปี และไม่ถูกตัดสิทธิแน่นอน โดยสลากฯ จะถูกเก็บไว้ที่สำนักงานสลากฯ เมื่อมีการซื้อสลากเกิดขึ้น เงินที่ขายสลากฯได้ จะถูกโอนเข้าบัญชีของผู้ค้าทันทีวันต่อวัน”

ส่วนผู้ซื้อจองที่ไม่สมัครขายบนแอปเป๋าตัง จะต้องไปแย่งกดซื้อผ่านตู้ธนาคารกรุงไทย ซึ่งมีความเสี่ยงในการกดจองสลากไม่ทันในงวดใดงวดหนึ่ง เพราะจะมีจำนวนผู้เข้ามาแข่งขันกดจองสลากมากขึ้นถึง 2 แสนรายในอนาคต รวมทั้งยังเข้าสู่กระบวนการคัดกรองเป็นผู้ค้าตัวจริง โดยสลากฯ จะถูกเก็บไว้ที่สำนักงานสลากฯ เมื่อมีการซื้อสลากเกิดขึ้น เงินที่ขายสลากฯได้ จะถูกโอนเข้าบัญชีของผู้ค้าทันทีวันต่อวัน

สำหรับคุณสมบัติของผู้ซื้อสลากดิจิทัล คือ มีอายุ 20 ปีขึ้นไป และต้องมีการสมัครยืนยันในระบบแอปเป๋าตัง โดยผู้ซื้อสามารถซื้อเลขชุดที่ต้องการ ในราคาใบละ 80 บาท ไม่จำกัดจำนวน ขณะที่การรับเงินรางวัล สามารถเลือกได้ 2 แบบ คือ โอนเข้าบัญชีธนาคารที่ผูกไว้กับแอปเป๋าตัง หรือ ขึ้นรางวัลที่สำนักงานสลากฯ

“ที่กำหนดเบื้องต้นที่ 5 ล้านใบ เพราะเป็นสลากที่มีการตัดสิทธิผู้ค้าที่นำไปฝากขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งหลังจากนี้ยังเดินหน้ายึดโควต้าผู้ค้าที่ทำผิดเงื่อนไขต่อเนื่อง เพื่อนำสลากมาเปิดให้โควต้าสำหรับขายบนแอปเป๋าตัง และยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในการซื้อขายผ่านระบบดิจิทัล โดยจะเติบโตแบบค่อยเป็นค้อยไปเพื่อไม่ให้กระทบต่อตลาดรวมถึงผู้ค้ารายย่อย”

ขณะที่ขั้นตอนและรายละเอียดในการดำเนินการนั้น จะเริ่มทดสอบระบบเป็นการนำร่อง 2 ครั้ง (2 งวด) เป็นระบบปิดโดยครั้งแรก จะทดสอบระบบด้วยการนำสลากงวดวันที่ 16 พฤษภาคม 2565 จำนวนไม่น้อยกว่า 4,500 ฉบับ จากตัวแทนจำหน่ายรายย่อย และสมาคม/องค์กร

โดยขั้นตอนจะเริ่มจากการสแกนสลาก 3 – 6 พฤษภาคม 2565 และเริ่มจำหน่าย 10 – 16 พฤษภาคม 2565 และจะทำการทดสอบการจำหน่ายสลากบนแพลตฟอร์ม ครั้งที่ 2 สลากงวด 1 มิถุนายน 2565 ด้วยจำนวนสลากเท่าครั้งแรกและมีขั้นตอนเช่นเดียวกัน ก่อนจะเริ่มจำหน่ายจริง งวด 16 มิถุนายน 2565

ด้านความคืบหน้าโครงการสลาก 80 ล่าสุดเปิดให้บริการแล้ว จำนวน 209 จุด ในกทม. และภาคกลาง และในงวดวันที่ 1 มิถุนายน 2565 จะมีเพิ่มอีก 151 จุด ในส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ระหว่างการจัดทำสัญญาอีก 48 รายในภาคตะวันออก และจะเดินทางไปคัดเลือกที่ภาคเหนือ และภาคใต้ อีกประมาณ 1,500 ราย ภายในเดือนพฤษภาคม2565 เพื่อให้โครงการสลาก 80 ทั่วทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เป็นไปอย่างต่อเนื่อง

ส่วนโครงการลงทะเบียนผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าฯ ที่มีผู้สมัครเข้ามาทั้งรายเก่าและรายใหม่จำนวนกว่า 1 ล้านราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และยืนยันการเป็นผู้ขายจริง คาดว่าต้องใช้เวลาในการดำเนินการอีกระยะหนึ่ง