มติชนออนไลน์ - เมื่อวันที่ 27 มกราคม นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า บอร์ดสลากฯ ได้เห็นชอบให้สำนักงานสลากฯไปจัดทำระบบจำหน่ายสลากผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือแพลตฟอร์อออนไลน์ ภายใต้ชื่อ แพลตฟอร์มจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล (ดิจิทัล ลอตเตอรี่) ด้วยวิธีการสแกนสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวจริงแล้วนำไปโพสต์ขายบนแพลตฟอร์มดิจิทัล ลอตเตอรี่ ซึ่งจะเป็นมาร์เก็ตเพลสของสำนักงานสลากฯเอง เพื่อเป็นช่องทางการจำหน่ายสลากให้ผู้ได้รับโควต้าสลาก แต่ผู้ค้าจะต้องขายในราคาไม่เกิน 80 บาท และเมื่อทำการซื้อขายสลากฯ ผู้ซื้อจะมีเอกสารหลักฐานทางอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมภาพสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นหลักฐาน โดย สำนักงานสลากฯ จะจัดเก็บข้อมูลไว้ ซึ่งล็อตเตอรี่ใบที่ได้จำหน่ายไปแล้ว จะไม่สามารถนำไปขายต่อได้อีก หรือเปลี่ยนสิทธิไม่ได้ เพราะสลากขายได้ครั้งเดียว
นายลวรณ กล่าวว่า ขณะที่ ผู้ขายบนแพลตฟอร์มยังมีสลากเหลือในช่วงใกล้วันออกรางวัลนั้น ผู้ขายสามารถปรับลดราคาขายสลากต่ำกว่า 80 บาทได้ เพื่อระบายสลากที่เหลือบนแพลตฟอร์มดิจิทัลโดยผู้ที่ได้รับโควต้าสลาก จะต้องลงทะเบียนการขายผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลของสำนักงานสลากฯ และเปิดบัญชีกับธนาคารกรุงไทย มีแอพพลิเคชั่นถุงเงิน ส่วนผู้ซื้อจะต้องซื้อผ่านแอพพ์เป๋าตังเท่านั้น เนื่องจากธนาคารกรุงไทย จะเป็นผู้ทำระบบทั้งหมดให้กับสำนักงานสลากฯ
“หลังจากบอร์ดสลากฯ เห็นชอบ การจำหน่ายช่องทางแพลตฟอร์มดิจิทัลแล้ว สำนักงานสลากฯ จะนำเรื่องเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อให้ความเห็นชอบในการดำเนินการ เนื่องจากเป็นหนึ่งในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ โดยยืนยันว่าไม่ได้เป็นการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่เป็นเพียงช่องทางการจำหน่ายสลากราคา 80 บาทเท่านั้น” นายลวรณ กล่าว
นายลวรณ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการเปิดลงทะเบียนผู้ซื้อจองสลากกินแบ่งรายใหม่ เพื่อแก้ไขปัญหาสลากเกินราคาใบละ 80 บาท ตั้งแต่เปิดลงทะเบียนเมื่อวันที่ 1 -27 มกราคม 2565 มีผู้ลงทะเบียนแล้ว 8.78 แสนราย ถือว่าเกิดความคาดหมาย จากเดิมคาดว่าจะมีผู้มาลงทะเบียน 4- 5 แสนราย ดังนั้นคาดว่าเมื่อสิ้นสุดการลงทะเบียนวันที่ 31 มกราคม นี้ จะยอดการลงทะเบียนทะลุ 1 ล้านราย หรือใกล้เคียง 1 ล้านราย
นายลวรณ กล่าวว่า หลังจากนั้นสำนักงานสลากฯจะเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง ใช้เวลา 2 เดือน เพื่อให้ได้ผู้ค้าสลากตัวจริง ที่ขายสลากในราคาในละ 80 บาทเท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามแบบกำหนดการเดิม คือ ผู้ที่ลงทะเบียนจะได้รับสลากในวันที่ 19-21 เมษายน 2565 และขายสลากฯ สำหรับออกรางวัลในงวด วันที่ 2 พฤษภาคม 2564 ยืนยันว่าจะไม่มีการเพิ่มจำนวนรับสมัครผู้ค้าสลากเกิน 2 ราย เนื่องจาก สลากมีอยู่จำนวนจำกัด ถ้าหากเพิ่มจะทำให้ผู้ค้ามีการแข่งขันเพื่อแย่งสลากมาขายสูงมากขึ้น
นายลวรณ กล่าวว่า ส่วนโครงการสลาก 80 บาท ขณะนี้ปิดการลงทะเบียนแล้ว พบว่า มีผู้สนใจมาลงทะเบียน 4,780 ราย แม้จะเป็นจำนวนมาก แต่ไม่กระจายครบทุกอำเภอตามเป้าหมายของสำนักงานสลากฯ ซึ่งหลังจากนี้สำนักงานสลากฯจะคัดกรองให้ได้ผู้ค้าตัวจริง 1,000 รายก่อน และทำการเกลี่ย กระจายให้ครบทุกพื้นที่ เพื่อจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 2 พฤษภาคม นี้เช่นกัน
นายลวรณ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ สำนักงานสลากฯ จะร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้มงวดการตรวจสอบการรับสลากกินแบ่งรัฐ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ไทยทุกแห่ง เพื่อมิให้ผู้ได้รับโควต้านำไปขายยกเล่ม เพราะถือว่าผิดเงื่อนไขสำนักงานสลากฯ หากตรวจสอบพบกระทำความผิด จะตัดสิทธิและตัดโควต้าทันที และหลังจากนั้นจะขึ้นบัญชีดำ (แบล็กลิสต์) ทำไม่สามารถเป็นผู้ขายสลากฯที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานสลากได้อีกต่อไป
“สำนักงานสลากฯ ใช้มาตรการเหล่านี้ เพื่อเดินหน้าแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา 80 บาท หากยังแก้ไขไม่ได้อีก ก็จะมีมาตรการต่อไปเรื่อยๆ จนจะแก้ไขปัญหาขายเกินราคา 80 บาท ได้ โดยเชื่อว่าการเปิดลงทะเบียน เพื่อหาผู้ขายตัวจริง โครงการสลาก 80 บาท การขายแพลตฟอร์มดิจิทัล และการเข้มงวดกวดขัน ณ ที่ทำการไปรษณีย์ โดยเชื่อว่าจะค่อยๆเปลี่ยนโฉมการขายล็อตเตอรี่ของประเทศไทย ซึ่งจะเห็นได้ชัดในเดือนพ.ค.นี้” นายลวรณ กล่าว
สลากดิจิทัลแรงเกินคาด วันแรกจ่อทะลุ 2 ล้านใบ ‘บิ๊กตู่’ ปลื้ม! เล็งเพิ่มออนไลน์
02 มิถุนายน 2565เคาะขายหวยดิจิทัลบน “เป๋าตัง” เริ่ม 2 มิ.ย. เวลา 6 โมงเช้า
28 เมษายน 2565บอร์ดสลาก เคาะเปิดแพลตฟอร์มออนไลน์ ฝากขายสลาก ดีเดย์งวดแรก 2 พ.ค.นี้
27 มกราคม 2565สำนักงานสลากเคาะ 3 แนวทาง ปราบหวยแพง เพิ่มจุดขาย 80 บาท 1,000 จุด
23 ธันวาคม 2564กมธ.กาสิโน ตั้ง 5 อนุ กมธ.ศึกษาฯสถานบันเทิงครบวงจร ให้ ปชช.นั่งที่ปรึกษา
16 ธันวาคม 2564