• ข่าวสาร
  • กิจกรรม
  • เอกสารแนะนำ

ย้อนรอย...จุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู จ.บุรีรัมย์

20 มีนาคม 2560

ผู้จัดการออนไลน์ - ย้อนรอย... จุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู จ.บุรีรัมย์ นโยบาย คสช. ก่อน “คนใกล้ชิดผู้นำกัมพูชา” เตรียมเปิดกาสิโน พื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา 7 เม.ย.นี้ เผย “รองฯ ประจิน-ก.ต่างประเทศ” เร่งชง ครม.เสนอใช้พื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติตาพระยา เปิดด่านถาวร หลังติดปัญหากว่า 5 ปี หวังเชื่อมโยงอารยธรรมขอมโบราณ-รองรับเออีซี เผยบุรีรัมย์ทุ่มสร้างอาคารตลาด 140 ห้อง 9 ห้องน้ำ วางระบบไฟฟ้า 1.2 ล้าน ในพื้นที่จุดผ่อนปรนแล้ว

       วันนี้ (20 มี.ค.) จากกรณีนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน (คปต.) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก “Veera Somkwamkid” ถึงบ่อนกาสิโนของคนสนิทสมเด็จฯ ฮุนเซน ผู้นำกัมพูชา ที่กำลังจะเปิดบนพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา โดยตั้งข้อสังเกตว่า

       “รัฐบาลไทยไปยินยอมให้เขมรเข้ามาก่อสร้างบ่อนกาสิโนแห่งนี้บนพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนได้อย่างไร ซึ่งผิดกฎหมายไทยและกฎหมายระหว่างประเทศ นายกฯ ประยุทธ์ และรองนายกฯ ประวิตร อาจเข้าข่ายมีความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 157 ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้เกิดความเสียหายแก่รัฐและประชาชน และพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติตาพระยา อธิบดีกรมอุทยานฯ เข้าข่ายมีความผิด ตาม ป.อาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีไม่ดำเนินคดีกับผู้ที่บุกรุกแผ้วถางทำลายพื้นที่อุทยานแห่งชาติตาพระยา และยังเป็นพื้นที่ที่ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ซึ่งหากมีการยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการมรดกโลก จะเกิดความเสียหายต่อการสนับสนุนงบประมาณที่ไทยจะได้รับ”

 

 “จุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู” นโยบาย คสช. นำมาสู่การเปิดกาสิโน

มีรายงานว่า สำหรับกาสิโนดังกล่าวที่นายวีระ ระบุว่ากำลังจะเปิดบนพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชานั้นตั้งอยู่ใกล้เคียงกับ “จุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู” ถือเป็นนโยบายตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อความมั่นคงภายในประเทศใน การดำเนินการเปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู นำมาสู่การเปิดกาสิโนดังกล่าวที่มี นายลึม เฮง นักธุรกิจชาวกัมพูชา เจ้าของกาสิโนชายแดนช่องสายตะกูนั้น

       ข้อมูลของกลุ่มงานอำนวยการ สำนักงานจังหวัดบุรีรัมย์ ระบุว่า เดิมทีช่องสายตะกูตั้งแต่อดีตช่องสายตะกู-จุ๊บโกกี เป็นช่องทางติดต่อการเดินทางไปมาระหว่างแนวเทือกเขาพนมดงรัก ในอดีตที่ผ่านมาที่ยังไม่มีระบบรัฐชาติเกิดความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายประดุจญาติมิตรครอบครัวเดียวกัน ต่อมามีการเปิดจุดผ่อนปรนเพื่อประโยชน์ด้านมนุษยธรรม เช่น การนำผู้เจ็บป่วยชาวกัมพูชาเข้ามารักษายังโรงพยาบาลฝั่งประเทศไทย และให้ประชาชนจากทั้งสองประเทศได้ร่วมแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าอุปโภคบริโภคในการครองชีพเป็นประจำทุกวันพุธ ทำให้มีปริมาณมูลค่าการซื้อขายสินค้าไม่น้อยกว่า 3-4 แสนบาทต่อครั้ง

       ปี 2550 นายสันทัด จัตุชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ในขณะนั้น ร่วมหารือกับนายขาว โฮด นายอำเภออัมปึน จังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา มีการนำเสื้อผ้า เครื่องอุปโภคบริโภค และอุปกรณ์กีฬา ไปมอบแก่เด็กและเยาวชนชาวกัมพูชา ที่ศูนย์ประสานงานชายแดนช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์

       มีการยกกรณีการขอเปิดจุดผ่อนปรนชั่วคราว ที่บริเวณช่องสายตะกู เนื่องจากจะเป็นช่องทางการส่งเสริมการค้าและความสัมพันธ์อันดีในระดับท้องถิ่นของสองประเทศขึ้นมาหารือร่วมกัน พบว่ามีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดผ่านมาตามจุดผ่อนปรนชายแดนดังกล่าวจำนวนมาก ได้สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนทั้งสองฝ่าย และประชาชนได้ขอให้ผ่อนผันให้มีการเปิดจุดผ่อนปรนอีกครั้ง 

       ขณะที่รัฐบาลในยุคนั้นมีนโยบายในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ในการเปิดจุดผ่อนปรนอย่างน้อยจังหวัดละ 1 จุด ครั้งนั้น ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ ได้ให้นายอำเภอบ้านกรวดในขณะนั้น แต่งตั้งคณะทำงานไปประชุมหารือร่วมกับนายอำเภออัมปืม จังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา เป็นการเบื้องต้น หากเห็นชอบร่วมกัน จึงจะเสนอให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดเปิดจุดผ่อนปรนชายแดนดังกล่าวต่อไป

       ในวันที่ 25 กันยายน 2555 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อคราวประชุมนอกสถานที่จังหวัดสุรินทร์ เห็นชอบให้ยกระดับจุดผ่อนปรนช่องการค้าสายตะกู-จุ๊บโกกี และพัฒนาเป็นจุดผ่านแดนถาวร วันที่ 17 มิถุนายน 2556 สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เห็นชอบให้เปิดจุดผ่อนปรนการค้าสายตะกู-จุ๊บโกกี โดยจังหวัดบุรีรัมย์เตรียมความพร้อมและเตรียมการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดอุดรมีชัย

 

 ยกระดับจากจุดแลกเปลี่ยนสินค้าเพื่อมนุษยธรรม เป็น “จุดผ่อนปรนทางการค้า”

       เอกสารประกอบพิธีเปิดจุดผ่อนปรนฯ ของสำนักงานจังหวัดบุรีรัมย์ กลุ่มงานอำนวยการ ยังระบุถึงการเปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ดังนี้ ข้อมูลทั่วไป ที่ตั้งฝั่งไทย ช่องสายตะกู บ้านสายโท 6 ใต้ ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ฝั่งกัมพูชา ช่องจุ๊บโกกี อำเภอบันเตียอำปีล จังหวัดอุดรมีชัย ระยะทางจากช่องสายตะกูไปอำเภอบันเตียอำปีล ประมาณ 30 กิโลเมตร สภาพถนนเป็นทางลาดยางประมาณ 20 กิโลเมตร และเป็นทางลูกรังประมาณ 10 กิโลเมตร (สภาพผิวจราจรดี) จากอำเภอบันเตียอำปีล ไปจังหวัดอุดรมีชัย ระยะทางประมาณ 48 กิโลเมตร เป็นทาลาดยาง จากจังหวัดอุดรมีชัยไปจังหวัดเสียมเรียบ ระยะทางประมาณ 130 กิโลเมตร เป็นทางลาดยางจากจังหวัดเสียมเรียบไปกรุงพนมเปญ ระยะทางประมาณ 328 กิโลเมตร รวมระยะทางจากช่องสายตะกูไปจังหวัดเสียมเรียบ (นครวัด-นครธม) ราชอาณาจักรกัมพูชาประมาณ 193 กิโลเมตร (บ้านสายโท 6 ใต้ มีระยะทางห่างจากด่านฯ 4 กิโลเมตร และบ้านจุ๊บโกกี มีระยะทางห่างจากด่านฯ 5 กิโลเมตร)

       จุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู มีประเภทสินค้าที่จำหน่ายเช่น สินค้าอุปโภคบริโภค ของป่า เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้ามือสอง และสินค้าเบ็ดเตล็ด พบ มูลค่าการค้า ในปี 2555 ประมาณ 15 ล้านบาท และปี 2556 ประมาณ 18 ล้านบาท

 

28 ม.ค. 57 มหาดไทยไฟเขียวประกาศเปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู

       ต่อมา วันที่ 28 มกราคม 2557 กระทรวงมหาดไทย มีหนังสือกระทรวงมหาดไทย ด่วน ที่ ๐๒๐๔.๓/๐๐๔๗๔ ลงวันที่ 28มกราคม 2557 แจ้งจังหวัดบุรีรัมย์ทราบว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้พิจารณาแล้วเห็นชอบร่างประกาศจังหวัดบุรีรัมย์ เรื่องการเปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ราชอาณาจักรไทย-ช่องจุ๊บโกกี จังหวัดอุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยให้จังหวัดพิจารณาดำเนินการออกประกาศจังหวัดเปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ต่อไป และให้แจ้งผลการดำเนินการให้กระทรวงมหาดไทยทราบด้วย

       ขณะที่จังหวัดบุรีรัมย์ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู และได้แต่งตั้งคณะทำงานจัดทำแผนบริหารจัดการพื้นที่ช่องสายตะกู ประกอบด้วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในพื้นที่และระดับจังหวัดเพื่อประชุมหารือในรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งหารือร่วมกับฝ่ายจังหวัดอุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา

       คณะกรรมการฯ ได้กำหนดมาตรการในการป้องกันปัญหาด้านความมั่นคงในบริเวณพื้นที่ช่องสายตะกู โดยให้อำเภอบ้านกรวดเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ กำหนดแนวทาง/แผนงานในการพัฒนาพื้นที่จุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู และจะประเมินผลการดำเนินงานทุก 6 เดือน เพื่อคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจการค้าชายแดนของจังหวัดบุรีรัมย์ และความเหมาะสมในการขยายวันเปิดทำการค้าหรือเตรียมความพร้อมเพื่อยกระดับเป็นจุดผ่านแดนถาวรในอนาคตต่อไป ในห้วงเวลาที่ผ่านมา จังหวัดได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานเตรียมความพร้อมเปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกูฯ โดยมีคณะทำงานฯ หารือร่วมกับคณะผู้บริหารฝ่ายจังหวัดอุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา ในรายละเอียดการดำเนินงานทั้งโดยการประชุมและการตรวจพื้นที่ร่วมกันอยู่อย่างต่อเนื่อง

 

 ย้อนรอย...ก่อนจะมาเป็นจุดผ่อนปรนการค้าช่อง “สายตะกู-จุ๊บโกกี” ไทย-กัมพูชา

       ต่อมา 12 พฤษภาคม 2557 เมื่อเวลา 14.00 น. ณ ศาลากลางจังหวัดอุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชาผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ขณะนั้น (นายธงชัย ลืออดุลย์) เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยผู้แทนคณะกรรมการเปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ประชุมร่วมกับฝ่ายจังหวัดอุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา นำโดย พล.ท.ซอ ทาวี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย พร้อมคณะผู้บริหารจังหวัดอุดรมีชัย ทั้งสองฝ่ายได้หารือในแนวทางความร่วมมือในการเปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู-จุ๊บโกกี และเห็นชอบร่วมกันในการดำเนินการเตรียมความพร้อมในพื้นที่ให้แล้วเสร็จภายในวันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม 2557 และได้กำหนดวันตรวจความเรียบร้อยของทั้งสองฝ่ายร่วมกันในวันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน 2557 ทั้งนี้ ได้กำหนดวันเปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู-จุ๊บโกกี ร่วมกันอย่างเป็นทางการในวันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน 2557

       จนเมื่อวันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน 2557 เวลา 10.30 น. คณะผู้แทนฝ่ายจังหวัดบุรีรัมย์นำโดย รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ (นายเฉลิมพล พลวัน) พร้อมด้วยคณะฝ่ายจังหวัดอุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา นำโดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย (นายวาด ปารานิน) ได้ตรวจพื้นที่บริเวณตลาดจุดผ่อนปรนการค้าช่องจุ๊บโกกีและช่องสายตะกู ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ได้หารือร่วมกันเพื่อเตรียมความพร้อมเปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู-จุ๊บโกกี อย่างเป็นทางการ โดยทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน ดังนี้

       1. การเตรียมพื้นที่ตลาดช่องจุ๊บโกกี ฝ่ายกัมพูชาได้เตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกและก่อสร้างถนนในบริเวณพื้นที่ตลาดจุดผ่อนปรนการค้าช่องจุ๊บโกกีให้เรียบร้อยแล้ว ได้แจ้งผู้ค้าขายให้ทราบพร้อมจะดำเนินการย้ายไปทำการค้าในพื้นที่ตลาดชั่วคราวตามที่ได้ตกลงร่วมกันไว้ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 12 มิถุนายน 2557 สำหรับการเตรียมพื้นที่ตลาดช่องสายตะกู ฝ่ายไทยได้เตรียมติดตั้งประตูและราวกั้นแนวทางเดินรวมทั้งการวางระบบไฟฟ้า ในวันที่ 9 มิถุนายน 2557 และจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 12 มิถุนายน 2557 เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบในการตรวจพื้นที่ร่วมกันอีกครั้งในวันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน 2557 เพื่อเตรียมความพร้อมของสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อเปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู-จุ๊บโกกี ร่วมกันอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 14 มิถุนายน 2557

       2. ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้มีการแลกบัตรเพื่อตรวจตราการเข้าออกของบุคคลทั้งสองฝ่าย โดยให้หารือกันในระดับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายร่วมกันอีกครั้ง ในรายละเอียดการกำหนดรูปแบบและวิธีการตรวจตราบุคคลเข้าออกให้เป็นไปด้วยความถูกต้องเรียบร้อยและเข้มงวดรัดกุม 

       3. ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้ฝ่ายจังหวัดบุรีรัมย์ โดยสำนักงานจังหวัดบุรีรัมย์ จัดทำร่างพิธีเปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู-จุ๊บโกกี และนำมาหารือร่วมกันในรายละเอียดอีกครั้งในการตรวจพื้นที่วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน 2557

 

 บุรีรัมย์ทุ่มสร้างอาคารตลาด140 ห้อง 9 ห้องน้ำ วางระบบไฟฟ้า 1.2 ล้าน

       ทั้งนี้ จังหวัดบุรีรัมย์ได้เตรียมความพร้อมการเปิดดำเนินการตลาดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู โดยใช้งบประมาณของเทศบาลตำบลจันทบเพชร ดังนี้ การศึกษา/จัดทำรายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (Initial Environmental Examination : IEE) มอบหมายให้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดบุรีรัมย์ดำเนินการ การสร้างอาคารตลาด จำนวน 140 ห้อง การดำเนินการแล้วเสร็จเรียบร้อยการสร้างห้องน้ำ จำนวน 9 ห้อง การดำเนินการแล้วเสร็จเรียบร้อย การก่อสร้างรั้วเสาคอนกรีตเสริมเหล็กติดตั้งลวดหนาม การดำเนินการแล้วเสร็จเรียบร้อย การก่อสร้างประตูและช่องทางเดิน การดำเนินการแล้วเสร็จเรียบร้อย การวางตู้คอนเทนเนอร์ สำหรับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ดำเนินการแล้วเสร็จเรียบร้อยทั้ง 3 ตู้

โดยตู้คอนเทนเนอร์ของเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรช่องจอม และด่านตรวจคนเข้าเมืองกาบเชิง จำนวน 2 ตู้ วางอยู่ตรงกลางถนนทางเดินเพื่อสะดวกในการตรวจตราการเดินทางเข้าออกของบุคคล และสินค้าต่างๆ ส่วนตู้คอนเทนเนอร์อีก 1 ตู้ สำหรับเจ้าหน้าที่ปกครอง วางอยู่ในบริเวณพื้นที่ตลาด

       การวางระบบไฟฟ้า สภาเทศบาลตำบลจันทบเพชรได้พิจารณาอนุมัติงบประมาณ 1,200,000 บาท (หนึ่งล้านสองแสนบาท) เพื่อขยายเขตบริการไฟฟ้าในพื้นที่ตลาดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกูฯ ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอนางรองได้เข้าสำรวจพื้นที่และเตรียมการปักเสาไฟฟ้าแล้ว การดำเนินการ 30 เปอร์เซ็นต์

       ท้ายสุดสำนักงานจังหวัดบุรีรัมย์ ทำบทสรุปว่า จังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดอุดรมีชัย จัดพิธีเปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ราชอาณาจักรไทย-ช่องจุ๊บโกกี จังหวัดอุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา อย่างเป็นทางการร่วมกัน ในวันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน 2557 เวลา 09.00. น. โดยมีนายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และ พล.อ.ซอ ทาวี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย เป็นประธานร่วมในพิธีเปิด และในวันที่ 14 กันยายน 2557 ได้มีการเปิดจุดแลกเปลี่ยนสินค้าเพื่อความมั่นคงและด้านมนุษยธรรม โดยเปิดทำการสัปดาห์ 2 วัน คือ วันศุกร์ และวันเสาร์ โดยอยู่ในความดูแลของฝ่ายความมั่นคงตลอดมา

       ทั้งนี้ จุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู-จุ๊บโกกี จะเปิดทำการค้าสัปดาห์ละ 3 วัน คือ ในวันศุกร์, เสาร์ และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น.

 

คนใกล้ชิดฮุน เซน-นักการเมืองไทย ทุ่มสร้างกาสิโนชายแดน โยงสัมปทานไฟฟ้า

        พิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2557 หัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน สื่อมวลชน แขกผู้มีเกียรติ พี่น้องประชาชนทั้งสองประเทศ มาร่วมพิธีเปิด สื่อมวลชนไทยยังได้บันทึกภาพ นายลึม เฮง นักธุรกิจชาวกัมพูชา เจ้าของกาสิโนชายแดนช่องสายตะกู ที่มาร่วมพิธีไว้ด้วย โดยการเปิดด่านมุ่งหวังร่วมกันผลักดันให้เป็นด่านผ่านแดนถาวรเพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558

       ขณะที่ อาคารกาสิโนขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ฝั่งประเทศกัมพูชาติดชายแดนไทยนั้น ขณะนั้นมีการเร่งก่อสร้าง จากข้อมูลทราบว่า กาสิโนแห่งนี้มี ออกญาลึม เฮง นักธุรกิจชาวกัมพูชาเป็นเจ้าของลงทุน และถือว่าเป็นสถานกาสิโนขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดากาสิโนชายแดนกัมพูชาที่ตั้งอยู่ติดกับชายแดนไทยด้านภาคอีสาน ทั้งที่ ช่องจอม จ.สุรินทร์ และ ช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ

       ข้อมูลของฝ่ายความมั่นคงระบุว่า สำหรับกลุ่มของ “ออกญาลึม เฮง” กับกลุ่มนายทุนจากสิงคโปร์ เจ้าของ “รอยัล ฮิลล์” กาสิโน มีความใกล้ชิดกับสมเด็จฯ ฮุนเซน ยังมีกาสิโน ที่ ช่องจอม จ.สุรินทร์ และ ช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ และได้สัมปทานไฟฟ้าเข้าไปจำหน่ายในกัมพูชา โดยกาสิโนรอยัลฮิลล์ โฮเตล ของกลุ่ม “ลึมเฮง กรุ๊ป” บริหารร่วมระหว่างออกญาลึม เฮง ร่วมหุ้นกับนักธุรกิจสิงคโปร์และไทย

       นอกจากนี้ยังมีกลุ่มของ “ออกญาพัด สุภาภา” อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเกาะกง คนสนิทของสมเด็จฯ ฮุนเซน และสนิทกับนักการเมืองในประเทศไทย เจ้าของกาสิโน “โอร์เสม็ด รีสอร์ท” ซึ่งเป็นนักธุรกิจ 2 สัญชาติ คือ สัญชาติไทย ถือบัตรประชาชน ของ จ.ตราด และ สัญชาติ กัมพูชา ถือบัตรประชาชน จ.เกาะกง ซึ่งนักธุรกิจรายนี้ถือว่าเป็นผู้มีฐานะร่ำรวยมากคนหนึ่ง และได้สัมปทานไฟฟ้าจากฝั่งไทยเข้าไปขายในกัมพูชาแต่เพียงผู้เดียว และยังมีบริษัทลียง พัด ของ “ออกญา ลียง พัด” ที่จะมาดำเนินการสัมปทานซื้อไฟฟ้าจากฝั่งไทยเข้าไปขายให้ จ.อัลลองเวง

 

รองฯ ประจิน จั่นตอง เร่งชง ครม.เสนอใช้พื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติตาพระยา เปิดด่านถาวร

       มีรายงานว่า เมื่อต้นปี 2559 พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ติดตามการปฏิบัติราชการและมอบนโยบายในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ โดยระบุว่า กำลังเตรียมเสนอรัฐบาลขอใช้พื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติตาพระยา เพื่อเปิดจุดผ่านแดนถาวรช่องสายตะกู เนื่องจากยังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยนายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้นำเสนอถึงปัญหาของจังหวัดบุรีรัมย์ที่ต้องขอรับการสนับสนุน มีเรื่องที่สำคัญ ได้แก่ ปัญหาการขอใช้พื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติตาพระยาเพื่อเปิดจุดผ่านแดนถาวร ช่องสายตะกู อำเภอบ้านกรวด

       ขณะที่ พล.อ.อ.ประจินย้ำว่าจะเร่งยกระดับจุดผ่อนปรนช่องสายตะกูเป็นด่านถาวร ซึ่งจะส่งผลดีต่อการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ โดยจะเสนอรัฐบาลขออนุญาตใช้พื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติตาพระยาเพื่อดำเนินการให้เร็วที่สุด

       มีรายงานว่า คณะทำงานของ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง เพื่อเร่งเปิดช่องสายตะกูเป็นด่านถาวร ได้สรุปในเบื้องต้นว่า 1. การที่ต้องเร่งเปิดช่องสายตะกูเป็นด่านถาวร จะส่งผลดีต่อการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ เพราะจะช่วยให้เงินสะพัดที่บริเวณนั้นมากขึ้น ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจจังหวัดและประเทศไทย 2. พื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติตาพระยาจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวของนักช้อปชายเเดน เราไม่ต้องไปถึงช่องจอมสุรินทร์ ช่องเม็ก หรือช่องอื่นๆ

       3.แว่วๆ มาว่า ทางฝั่งกัมพูชากำลังจะเปิดกาสิโน หากการลงทุนเกิดในบริเวณนั้นจะทำให้เศรษฐกิจสองฝั่งประเทศเชื่อมโยงกัน 4. แต่อย่างไรก็ดี เราสามารถเข้าออกและเลือกซื้อสินค้าจากฝั่งกัมพูชาได้อย่างจำกัด ตามที่มีการระบุไว้ ซึ่งปัจจุบันมูลค่าทางการค้าด่านช่องสายตะกู ยังมีไม่มาก แต่หลังเปิดด่านถาวร จะมีเม็ดเงินสะพัดปีละหลายร้อยล้านบาท จากการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า การท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงอารยธรรมขอมโบราณ และเพื่อรองรับเออีซี

 

 “บัวแก้ว” เร่งยกรับเป็นด่านถาวร อ้างติดปัญหาขอใช้พื้นที่อุทยานตาพระยา

       มีรายงานว่า ความพยายามเพื่อเร่งให้มีการยกระดับให้เป็นด่านถาวร มีอย่างต่อเนื่อง เช่น เมื่อกลางปี 2559 นายชัยสิริ อนะมาน ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมคณะผู้บริหารจากกระทรวงการต่างประเทศ ได้ลงพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์เพื่อร่วมหารือกับหัวหน้าส่วนราชการ และภาคเอกชน เพื่อขับเคลื่อนพัฒนาด้านการค้า การลงทุน วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวในส่วนภูมิภาคให้ทันต่อยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงรองรับการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (AEC) พร้อมติดตามความคืบหน้าการค้าชายแดนที่บริเวณช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ กับ อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา เพื่อหาแนวทางยกระดับให้เป็นจุดผ่านแดนถาวร รองรับ AEC

       “ขณะนี้ทุกฝ่ายก็เห็นชอบให้เปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวร แต่ยังติดปัญหาเพียงการอนุญาตใช้พื้นที่เนื่องจากบริเวณช่องสายตะกูดังกล่าวอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติตาพระยา”

        การลงพื้นที่ในครั้งนั้น ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เชื่อว่าหากมีการยกระดับจากจุดผ่อนปรนช่องสายตะกูเป็นจุดผ่านแดนถาวรจะส่งผลดีทั้งด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวหากเปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวรอย่างเป็นทางการแล้วจะเป็นการเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี เพราะไม่ใช่เฉพาะนักท่องเที่ยวจากกัมพูชาเท่านั้น แต่จะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีกหลายประเทศจะเดินทางมาเที่ยวเพิ่มมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ผ่านมากว่า 5 ปีแล้วยังไม่สามารถเปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวรได้ ดังนั้น กระทรวงการต่างประเทศจะได้นำข้อมูลจากการลงพื้นที่ไปหาแนวทางผลักดันในการยกระดับช่องสายตะกูเป็นจุดผ่านแดนถาวรอย่างเร่งด่วนต่อไป

       ทั้งนี้ เกิดขึ้นก่อนที่นายวีระ สมความคิด จะตั้งคำถามถึงรัฐบาล คสช.ว่า “ตกลงยอมรับใช่ไหม? ว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นจริง มีทหารใหญ่บางคนได้รับผลประโยชน์โดยมิชอบจริง คนไทยที่รักความเป็นธรรมทั้งหลาย ท่านจะยอมให้เกิดความระยำเช่นนี้กับแผ่นดินไทยหรือ? ที่เลวระยำสิ้นดีคือบ่อนกาสิโนแห่งนี้มาแอบสร้างแอบเปิดกันในยุครัฐบาล คสช.ได้อย่างไร? นายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา คุณจะว่าอย่างไรกับเรื่องนี้? จะแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอีกหรือ? อย่าแกล้งทำเป็นมึนอีกล่ะ ต้องมีคำตอบด่วนเลยนะ เพราะกาสิโนแห่งนี้ประกาศว่าจะเปิดในวันที่ 7 เมษายนนี้ เปิดทุกวันไม่เว้นวันพระอีกด้วย” นายวีระระบุ