• ข่าวสาร
  • กิจกรรม
  • เอกสารแนะนำ

'12สปช.'ชงตั้งคาสิโนพัทยา อ้างเปลี่ยนภาษีบาปเป็นบุญ

15 มิถุนายน 2558

เดลินิวส์ - '12 สปช.กลุ่มรักชาติ' อ้างมองมิติเศรษฐกิจเปลี่ยนภาษีบาปเป็นบุญ ดันตั้งบ่อนคาสิโนในไทย หวังช่วยรัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจ นำรายได้เข้าประเทศ ต้อนรับ "เออีซี" ชงเปิดซิงที่พัทยา 

เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่รัฐสภา สมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ (สปช.) จำนวน 12 คน นำโดย พ.ต.อาณันย์ วัชโรทัย นายเกรียงไกร ภูมิเหล่าแจ้ง นายดำรงค์ พิเดช นายบุญเลิศ คชายุทธเดช พร้อมคณะ ภายใต้ชื่อ สปช. “กลุ่มรักชาติ” ร่วมกันแถลงข่าวเตรียมเสนอให้มีการตั้งบ่อนคาสิโนในประเทศไทยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี)ในปลายปีนี้ โดย พ.ต.อาณันย์ กล่าวว่า ในกลุ่ม สปช. 12 คน ได้หารือถึงความพยายามแก้ปัญหาของรัฐบาลที่ถือว่าสามารถทำได้ดี โดยเฉพาะการปฏิรูปประเทศ แต่ติดขัดเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ จึงหาทางช่วยเหลือรัฐบาลในการหารายได้ โดยการเสนอให้มีการจัดตั้งคาสิโนอย่างถูกกฎหมายขึ้นในไทย เพื่อให้ประเทศมีรายรับ กรุงเทพฯ เป็นมหานครที่คนต่างชาติเข้ามามากที่สุด ควรนำบ่อนเถื่อนต่าง ๆ มาจัดทำให้ถูกกฎหมาย ทั้งนี้ไม่ทราบจะได้ผลตอบรับขนาดไหน แต่พยายามทำให้ดีที่สุด โดยจะเสนอเข้าที่ประชุม สปช. และเสนอต่อ ครม.ให้ตัดสินใจ

พ.ต.อาณันย์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาทุกรัฐบาลมีความพยายามให้มีคาสิโนในประเทศอย่างถูกกฎหมาย เพราะเห็นว่ากรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวงที่มีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจำนวนมาก เราจึงมองในมิติทางเศรษฐกิจที่เป็นการสร้างรายได้ อีกทั้งปัจจุบันรอบ ๆ บ้านเรามีบ่อนคาสิโน ประมาณ 22 แห่ง คนเข้าไปเล่นแห่งละ 700-1,000 คนต่อวัน โดยเฉพาะแนวชายแดนเขมร มีบ่อน 10 แห่ง มีคนเล่นวันละ 1 หมื่นคน วงเงินวันละประมาณ 5 หมื่นบาท หมุนเวียนอยู่ในบ่อนประมาณ 5 ล้านบาทที่ตกอยู่ในบ่อน ประเมินตัวเลข 3-4 ปีข้างหน้า เราจะมีบ่อนเพิ่มขึ้นรอบ ๆ ไทยไม่ต่ำกว่า 30 แห่ง ซึ่งต้องยอมรับว่านักเล่นพนันตามชายแดนกว่า ร้อยละ80 เป็นคนไทยทั้งสิ้น ดังนั้นการมีคาสิโนที่ถูกกฎหมายในประเทศ จะช่วยให้เงินไม่ไหลออกนอกประเทศ

พ.ต.อาณันย์ กล่าวด้วยว่า ส่วนใครที่เห็นคัดค้านโดยมองมิติทางสังคมว่าประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ แต่ทุกประเทศที่มีศาสนา โดยเฉพาะศาสนาอิสลามซึ่งเคร่งครัดมาก ก็ยังให้มีการเล่นพนันในคาสิโนอย่างถูกต้อง และยังช่วยสร้างงานให้กับคนในประเทศสร้างรายได้ แม้จะไม่ใช่รายได้หลัก แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถนำรายได้เข้ารัฐ หากบริหารจัดการอย่างถูกต้องเป็นระบบ หลายประเทศประสบความสำเร็จ อีกทั้งจะเป็นการรองรับการเปิดเออีซีในปลายปีนี้ด้วย
พ.ต.อาณันย์ กล่าวต่อว่า ส่วนมาตรการที่เราจะต้องป้องกันก็คือรณรงค์ไม่ให้มีการเล่นการพนัน เหมือนกับการสูบบุหรี่ กินเหล้า ห้ามมีการติดป้ายโฆษณาผ่านสื่อ และทดลองทำ มีการนำร่องใน 2-3 จุดแล้วประเมินเพื่อป้องกันปัญหาเยาวชน ยาเสพติดไม่ให้เกิดการมอมเมา โดยเบื้องต้นคิดว่าจะเริ่มที่เมืองพัทยา เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่จะเห็นด้วย เพราะเราชะลอไม่ได้ ทางรัฐบาลอาจจะลังเล แต่ทางกลุ่มคิดว่าควรจะดำเนินการเรื่องนี้ และทำให้เป็นรูปธรรม อาจจะคิดว่าในยามนี้แทนที่จะปฏิรูปอะไรที่เป็นเรื่องกฎหมาย แต่อย่าลืมว่าในยามนี้สื่อทุกแขนงมั่นใจว่ารัฐบาลจะสามารถบริหารไปได้ แต่ที่ห่วงมากที่สุดคือเศรษฐกิจ เรามีส่วนที่จะทำให้เศรษฐกิจของชาติดีขึ้น ทางกลุ่มจึงเห็นควรให้ดำเนินการเรื่องนี้ให้เป็นรูปธรรม แต่ไม่รู้ว่าจะได้รับการตอบรับมากน้อยแค่ไหน เพราะต้องผ่านความเห็นชอบจาก สปช. และการตัดสินใจสุดท้ายขึ้นอยู่กับ ครม. และ คสช.
นายเกรียงไกร กล่าวว่า คนไทยส่วนใหญ่รู้จักการพนัน ถามว่าการเล่นล็อตเตอรี่ เล่นไก่ชน เล่นมวย เป็นการพนันหรือไม่ ล้วนเป็นการพนันทั้งสิ้น เราเลิกคำว่า “ดัดจริต”แล้วทำประเทศให้เดินหน้า ต้องยอมรับว่ารัฐบาลปัจจุบันเดินหน้าปฏิรูปประเทศอย่างจริงจัง แต่ติดขัดเรื่องเดียวคือเศรษฐกิจ พวกเราคิดเหมือนกันว่าเศรษฐกิจจะดีได้ต้องดึงเอาเงินนอกระบบ หรือเงินสีเทาขึ้นมาข้างบน ตนกล้าพูดได้เต็มปากว่าบ่อนต่าง ๆ ในประเทศเพื่อนบ้านร้อยละ 80 เป็นคนไทยทั้งนั้น การเปิดคาสิโนไม่ใช่เรื่องเสียหาย เป็นเรื่องดีต่อการจัดเก็บรายได้เข้ารัฐ รายได้หลักของมาเก๊า ก็มาจากบ่อนคาสิโน เราจะนำรายได้เหล่านี้มาพัฒนาประเทศ เรียกว่าการดึงภาษีบาปมาเป็นภาษีบุญ มาช่วยเหลือคนจน ช่วยพระพุทธศาสนา คนพิการ การศึกษา ส่วนมาตรการป้องกันเราจะไม่เน้นคนในชาติไปเล่น หากจะเล่นต้องแสดงบัญชีทรัพย์สิน เสตทเมนท์เงินสดจำนวนสูง ดังนั้นคนยากไร้ไม่มีสิทธิเข้ามาเล่น แต่สำหรับต่างชาติเข้าไปเล่นเมื่อไหร่ก็ได้
ด้านนายบุญเลิศ กล่าวเสริมว่า ทางกลุ่มจะได้นำข้อเสนอการเปิดบ่อนคาสิโน ต่อนายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช. ว่าสมควรที่จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด เพื่อศึกษาผลดีผลเสียและผลกระทบในมิติต่าง ๆ หากเห็นว่ามีผลดีมากกว่าผลเสีย ก็จะเสนอต่อรัฐบาล อย่างไรก็ตามไม่ว่าประธานจะเห็นอย่างไร ทาง สปช.12 คน จะศึกษาและดำเนินการต่อไป เพราะเวลาเหลือแค่เพียง 2 เดือนเศษ ทางรัฐบาลคงต้องพิจารณาหลายด้าน และเออีซีจะเริ่มต้นปลายปีนี้ จะมีชาวต่างประเทศเข้ามาจำนวนมาก จึงเป็นเรื่องที่รอไม่ได้.