• ข่าวสาร
  • กิจกรรม
  • เอกสารแนะนำ

สนช.จี้รัฐเปิดร่างแก้ไขพรบ.สลากให้สังคมตรวจสอบ

12 มีนาคม 2558

สนช.จี้รัฐเปิดร่าง พรบ.สลาก ให้สังคมช่วยตรวจสอบ อัดรีดเงินคนจนด้วยการเพิ่มพนัน เชื่อหวยออนไลน์สุดท้ายนายทุนก็กินรวบ

โพสต์ทูเดย์ - เมื่อวันที่ 11 มี.ค. นายมณเฑียร บุญตัน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกรณีคณะรัฐมนตรีมีมติแก้ไข พ.ร.บ.สลากกินแบ่งรัฐบาลใหม่ว่า ความพยายามในการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคาของรัฐ โดยการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่คงไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้  ยังคงเป็นการมุ่งหารายได้โดยใช้สลากกอบโกยเงินจากกระเป๋าคนจน ไม่มีการแก้ไขโครงสร้างที่ไม่เป็นธรรมและไม่ธรรมาภิบาล  

นายมณเฑียร กล่าวว่า การตัดสินใจออกหวยออนไลน์ ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา แต่จะทำให้ปัญหาบานปลาย   เพราะในอนาคต เมื่อกลุ่มทุนตั้งหลักได้ไหวตัวทัน ก็จะนำไปสู่ยึดกุมผลประโยชน์จากหวยออนไลน์ได้เหมือนเดิม เพราะหากถามว่าใครที่จะมีสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของตู้จำหน่ายสลากออนไลน์ สุดท้ายนายทุนก็สามารถเล่นแร่แปรธาตุให้ตู้มาเป็นของเขา ปัญหาก็จะกลับเข้าไปสู่วงจรเดิม คือ สลากแพง และประชาชนก็ถูกหลอกล่อให้ซื้อ ชวนเชื่อให้มัวเมา  เป็นวิธีคิดหาเงินกับคนจน  ดูดเงินเข้ากระเป๋ารัฐ โดยอาศัยกลไกการพนันทำให้ประชาชนอ่อนแอ

นายมณเฑียร กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ประชาชนยังไม่ทราบเลยว่า รูปร่างหน้าตาของ ร่าง พรบ.สลากเป็นอย่างไร  ก็ได้แต่คาดเดากันไปโดยเฉพาะมีประเด็นของการเพิ่มผลิตภัณฑ์ และการเพิ่มอำนาจให้ตัวคณะกรรมการหรือบอร์ดของสำนักงานสลากหรือไม่    ถ้าเป็นอย่างที่ว่าจริง ก็เท่ากับว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างการบริหารจัดการอะไรเลย ทั้งๆที่แนวคิดการเพิ่มสลาก และโครงสร้างการบริหารแบบเดิมนี้พิสูจน์มาแล้วว่าจัดการปัญหาอะไรไม่ได้ และเปิดช่องให้ฝ่ายการเมืองแทรกแซงได้ ซึ่งในอนาคตภายหลังจากการเลือกตั้งพวกนี้ก็เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ได้เหมือนเดิม

 

“อันดับแรก ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยร่าง พรบ.สลาก ฉบับนี้สู่สาธารณะอย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อลดความระแวงสงสัยทั้งหมด และแสดงความจริงใจต่อประชาชนให้สังคมได้ช่วยกันตรวจสอบ วิพากษ์วิจารณ์ ด้วยเหตุด้วยผลกัน และคำนึงถึงปรัชญาสำคัญนั้นคือ ธรรมาภิบาลเพื่อจะได้ร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน อย่าคิดจะหารายได้จากสลากเพิ่มเติมโดยไม่คำนึงการมอมเมาประชาชน แต่ต้องคิดบริหารจัดการแก้ไขปัญหาโครงสร้างของการบริหารของสลาก อย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้สังคมอ่อนแอ นี่คือการแก้ไขปัญหาในระยะยาวอย่างแท้จริงมากกว่าที่เป็นอยู่”นายมณเฑียรกล่าว