ไทยโพสต์ 26 ธันวาคม 2556 - บอร์ดสลากไฟเขียวกฎหมายใหม่เปิดทางออกหวยบนดิน-แบ่งรายได้-ตั้งกองทุนซื้อคืน คาดบังคับใช้ปลายปี 2558 “สมชัย” สั่งการบ้านเข้มทำแผนปฏิรูประบบตรวจสอบคุมลอตเตอรี่แพง หลังที่ผ่านมาเหลวไม่เป็นท่า

    นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร ในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสลากฯ เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2557 เห็นชอบในหลักการแก้ไข พ.ร.บ.สลากฯ พ.ศ.2517 จากนี้อยู่ระหว่างแก้รายละเอียดอีกเล็กน้อย ก่อนนำเสนอคณะอนุกรรมการกลั่นกรองกฎหมายที่มีนายณพงศ์ ศิริขันตยกุล กรรมการสลากฯ เป็นประธานพิจารณาทบทวนเป็นรายมาตรา และคาดว่าจะสามารถเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาได้ในช่วงเดือน ม.ค.2558 ตามกรอบที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจกำหนดไว้

    ทั้งนี้ การแก้ไขกฎหมายใหม่ จะเพิ่มอำนาจให้สำนักงานสลากฯ สามารถออกผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ เช่น หวยบนดิน สลาก 2 ตัว 3 ตัว สลากออนไลน์ เป็นต้น เพื่อแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาล (ลอตเตอรี่) เกินราคา รวมทั้งให้สามารถจัดตั้งกองทุนเพื่อรับซื้อลอตเตอรี่คืนได้ ในกรณีที่มีเลขไม่สวย เพื่อไม่ให้เป็นต้นทุนผู้ค้า และแบ่งสัดส่วนรายได้ที่กำหนดให้จ่ายเป็นรางวัล 60% เป็นรายได้รัฐ 28% และค่าบริหารจัดการ 12% โดยจะเพิ่มส่วนแบ่งให้ผู้ค้ามากขึ้น รวมถึงกำหนดให้มีการจัดสรรงบสำหรับเพื่อช่วยเหลือสังคมที่ชัดเจน

    นายสมชัย กล่าวว่า กระบวนการแก้ไขกฎหมายคาดว่าจะแล้วเสร็จ และมีผลบังคับใช้ในช่วงสิ้นปี 2558 โดยระหว่างที่ยังไม่มีกฎหมายใหม่จะต้องแก้ไขปัญหาลอตเตอรี่เกินราคาให้มีความเด็ดขาดมากขึ้น ซึ่งยอมรับว่าที่ผ่านมาการทำงานของสำนักงานสลากฯ ในการเข้าไปตรวจสอบ ยังล้มเหลว ดังนั้น ในประชุมคณะกรรมการจึงได้มอบหมายงานเร่งด่วน 3 แนวทาง ประกอบด้วย 1.ต้องปฏิรูประบบการตรวจสอบโควตาผู้ค้าสลาก จากที่ผ่านมาทุกครั้งเมื่อครบอายุต่อสัญญาสลากทุกๆ 1 ปี กลับปรากฏว่าในรายงานสลากฯ รับรองการตรวจสอบความถูกต้องตามเงื่อนไขทุกครั้ง ซึ่งค้านสายตา เพราะยังมีการขายเกินราคาอยู่มาก

    “มีการกล่าวโจมตีผมในฐานะประธานว่าทำงานล้มเหลว ไม่สามารถแก้ไขสลากเกินราคาได้ แต่เมื่อผมถามกลับว่าที่ผ่านมาทางสำนักงานสลากได้ดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง กลับไม่มีใครตอบได้ และต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาระบบตรวจสอบมีความล้มเหลว บังคับให้คู่สัญญาทำตามเงื่อนไขไม่ได้แม้แต่รายเดียว แต่ก็ยังสามารถต่อโควตาได้ต่อไปเรื่อยๆ” นายสมชัย กล่าว

    นายสมชัยกล่าวว่า แนวทางที่ 2.ได้สั่งให้ไปจัดทำระบบตรวจสอบปูพรมทั้งผู้ค้าที่เป็นนิติบุคคล และรายย่อยให้ทำตามเงื่อนไขสัญญาทุกราย หากฝ่าฝืนก็ต้องยึดโควตาคืน และ 3.ให้ฝ่ายบริหารไปจัดทำแนวทางการแก้ไขสลากเกินราคามาเสนอในการประชุมคณะกรรมการเดือน ม.ค.2558 แม้ว่าจะครบกำหนดโควตาเดิมทั้ง 72 ล้านฉบับในเดือน มิ.ย.-ก.ค.2558 โดยให้ทำแผนเป็นแบบบูรณาการ เพราะหากเป็นเจ้าหน้าที่ที่ทำงานคลุกคลีกับสลากมานานก็เชื่อว่าน่าจะสามารถวางแนวทางแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องได้

    ก่อนหน้านี้นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.การคลัง ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สิ่งที่ต้องการให้สำนักงานสลากฯ เร่งดำเนินการในปี 2558 คือการแก้ไขปัญหาสลากฯ ไม่ให้ขายเกินราคา หรือแพงจนเกินไป และไม่ขัดต่อกฎหมาย โดยปัจจุบันสัดส่วนสลากฯ  ที่จำหน่ายในแต่ละงวดอยู่ที่ 74 ล้านฉบับ มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 8 หมื่นล้านบาทต่อปี ถือเป็นตลาดที่ใหญ่ ซึ่งหากสำนักงานสลากฯ สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ก็จะส่งผลดีและให้เกิดความเป็นธรรม เพื่อประโยชน์ต่อประชาชนที่เป็นผู้บริโภค.