pptvhd36 - ครม.อนุมัติหลักการ ร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ “จุลพันธ์” ยันกาสิโนมีไม่ถึง 10% ส่วนที่เหลือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงครอบครัว คาดสร้างรายได้เข้าประเทศไม่ต่ำกว่าแสนล้านต่อปี

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติในหลักการ ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกานำไปปรับปรุงรายละเอียด ก่อนส่งต่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมว่า เรื่องของกาสิโนที่หลายฝ่ายค่อนข้างกังวลจะมีเพียง 10% เท่านั้น ส่วนที่เหลือเป็นเรื่องของการท่องเที่ยวเป็นหลัก ซึ่งจะทำให้ประเทศเติบโตและมีตัวเลขจีดีพีสูงขึ้นอย่างมาก ทั้งหมดจะเกิดผลดีให้กับประเทศในอนาคต

“เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ของประเทศ เป็นเรื่องที่ต้องสื่อสารกันบ่อยหน่อย ขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันตั้งคำถาม และจะมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันตอบ เพื่อให้ทุกคนเข้าใจในภาพรวมไปพร้อมกัน”

ขณะที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร เป็นการดำเนินการตามแนวนโยบายแห่งรัฐข้อที่ 7 ส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวประเภทที่มนุษย์สร้างขึ้น (Man-made Destination) เช่น สวนน้ำ สวนสนุก สถาบันเทิงครบวงจร ที่สามารถจัดคอนเสิร์ต เทศกาลหรือการแข่งขันกีฬาระดับโลกได้

นายจุลพันธ์ ย้ำว่า เรื่องนี้ไม่ใช่การทำกาสิโนเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการสร้างแหล่งท่องเที่ยวของครอบครัว กาสิโนเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ขณะเดียวกันที่ประชุม ครม.วันนี้มีการยกเรื่องของกีฬาพื้นถิ่นเข้ามาคุยด้วย เช่น มวยไทย ไก่ชน ที่จะนำไปประกอบในร่างกฎหมายต่อไป

รมช.คลัง คาดการณ์ว่า เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะเป็นการพลิกฟื้นการสร้างรายได้ให้กับประเทศ จะเกิดการลงทุนต่อจุดไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท สร้างรายได้จาการท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 120,000 – 240,000 ล้านบาทต่อปี ดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 5-10% กระตุ้นการใช้จ่ายในช่วง Low Season ไม่ต่ำกว่า 13% เพิ่มการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่อหัวที่ 20,000 บาทต่อราย เกิดการจ้างงาน 9,000 – 15,000 ตำแหน่ง สร้างรายได้ให้รัฐไม่ต่ำกว่า 12,000 – 40,000 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากการพนันและรายได้ที่เกิดกจากการปะกอบธุรกิจอื่นๆ เช่น โรงแรม หรือ สวนสนุก

ขณะที่ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ชี้แจงในที่ประชุมว่า ร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์นั้น กฤษฎีกาไม่ได้เห็นแย้งหรือไม่เห็นด้วย แต่เป็นเพียงข้อสังเกตที่ต้องนำเรียน ครม. และจะสามารถนำไปปรับแก้เพิ่มเติมในกฤษฎีกา เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการสร้างแมนเมดเดสติเนชั่น หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้นมา ตามนโยบายที่รัฐบาลแถลงไว้ต่อรัฐสภา

สำหรับสาระสำคัญของกฎหมาย เป็นการกำหนดให้มี กฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เช่น กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร และคณะกรรมการบริหาร จัดตั้งสำนักงานกำกับการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร และกำหนดหลักเกณฑ์การอนุญาตให้ประกอบสถานบันเทิงครบวงจร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและกำกับดูแลเพื่อให้เกิดธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรที่ได้มาตรฐาน เพื่อรองรับการท่องเที่ยวและส่งเสริมการลงทุนในประเทศ อันจะก่อให้เกิดผลดีต่อสังคมในภาพรวมและเป็นการสนับสนุนให้เกิดการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน

ทั้งนี้ ขอให้นำความเห็นและข้อสังเกตของที่ประชุมที่เน้นให้ความสำคัญกับการกำหนดโครงสร้างของกฎหมายให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของนโยบายรัฐบาล การสร้างความชัดเจนในการกำกับดูแลและการป้องกันผลกระทบเชิงลบด้านสังคม เช่น การกำหนดพื้นที่สถานที่ตั้งให้มีความเหมาะสม การกำหนดผู้รักษาการร่วมตาม ร่างพระราชบัญญัติฯ เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ