วันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม 2564 ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน ร่วมกับ มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน และ สสส. จัดเสวนา “พนันกับโควิด ภัยร้ายใต้ภูเขาน้ำแข็ง” ณ ห้องประชุมสมาคมผู้บำเพ็ญประโยชน์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายเว้นระยะห่างทางสังคม สถานที่ประชุมมีเพียงวิทยากร เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชนจำนวน 20 คน ส่วนหลักเป็นการเผยแพร่ผ่านระบบออนไลน์ ไลส์สดเฟซบุ๊ก “ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน”
เริ่มต้นด้วยการ สนทนาประสาชุมชน “ติดโควิด-19 จากบ่อนพนัน ลามติดคนทั้งบ้าน... บทเรียนการจัดการในชุมชน” นายนฤบดี จันทรส มีเดียมูฟ ผู้ดำเนินรายการ สนทนากับ ป้าจัน (นามสมมติ)
ผู้ได้รับเชื้อโควิด-19 จากบ่อนพนัน สรุปสาระสำคัญได้ว่า ป้าจันชอบเล่นพนัน ตอนล็อกดาวน์ปีที่แล้วเข้าบ่อนเกือบทุกวัน รอบหลังโควิดแรงเลยไปไม่บ่อย ที่ติดพนันเพราะไปเจอเพื่อนที่เพิ่งไปบ่อน ไม่รู้ว่าเพื่อนติดโควิด เลยคุยกันโดยไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย ต่อมารู้ว่าเพื่อนตัวร้อน ไม่สบาย ไปตรวจ เป็นโควิด วันรุ่งขึ้นป้าจันเป็นไข้ เจ็บหน้าอก เลยไปตรวจที่โรงพยาบาล ค่ำๆ โรงพยาบาลโทรแจ้งว่าป้าจันติดโควิด ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เครียด เลยแจ้งประธานชุมชนให้ช่วยประสาน หารถมารับ แต่ไม่มีรถ ไม่มีเตียง อยู่บ้านรอ 5 วัน ถึงมีรถมารับ ทำให้ติดโควิดกันทั้งบ้าน
ป้าจันยอมรับว่า ที่ผ่านมาไม่คิดว่าผลกระทบจากการเล่นพนันจะร้ายแรงขนาดนี้ ตอนนี้ต่อให้เอาเงินมาให้เป็นหมื่นก็ไม่เอา ไม่ไปบ่อนแล้ว และอยากบอกทุกคนว่า การพนันมันไม่ดี มันทำให้เสี่ยงติดโควิด อย่าไปเล่นพนัน ต้องเว้นระยะห่าง เพราะเวลาเป็นโควิดมันทรมานมาก ทั้งเจ็บ ทั้งปวด สังคมรังเกียจ ขาดงาน ขาดรายได้ ผลกระทบมีถึงทุกวันนี้ เช่น พอร้านที่ลูกสาวทำงานรู้ว่าป้าจันติดโควิด ก็ให้ลูกสาวออก ตอนนี้ทุกคนในบ้านหายจากโควิดแล้ว แต่ลูกสาวยังตกงาน ยังหางานทำไม่ได้
ผู้ร่วมสนทนาในเวทีอีกท่านหนึ่งคือ นางนัยนา ยลจอหอ ประธานชุมชนวัดสวัสดิ์วารีสีมาราม กล่าวว่า โควิดระลอก 3 การรับมือของภาครัฐยังไม่ค่อยดี ในชุมชนเรามีการประชาสัมพันธ์ตลอด กินร้อน ช้อนใครช้อนมัน ล้างมือให้สะอาด เด็กๆ ให้อยู่บ้าน แมสต้องใส่ตลอด แต่คนในชุมชนยังขาดทักษะความรู้ ไม่ค่อยรักษากฎระเบียบ อย่างเคสป้าจันไปบ่อน คุยกับเพื่อนที่เป็นนักพนันแบบไม่ใส่แมส ทำให้ติดโควิด คนทั้งบ้านติดโควิด เราก็ต้องช่วยประสานงานกับหลายหน่วยงาน โรงพยาบาลก็เต็ม ไม่มีเตียง ต้องทยอยส่งคนอาการหนักไปก่อน ป้าจันเป็นคนสุดท้ายต้องรอรถมารับ 5 วัน พอกลับจากโรงพยาบาลสนามต้องกักตัวอีก 14 วัน ก็ต้องดูแล เอาข้าว ขนมเด็ก ผ้าอนามัย และอื่นๆ ไปส่งให้ ตอนนี้ในชุมชนมีอีก 2 ครอบครัวติดโควิด การเยียวยาช่วยเหลือก็คงทำแบบเดียวกับป้าจัน
นางนัยนานาฝากถึงพี่น้องในทุกชุมชน ขอให้ดูแลตนเองและครอบครัวให้ดีที่สุด ต้องดูแลเด็กๆ ให้ดีที่สุด เชื่อการประชาสัมพันธ์ของชุมชน และอย่าบลูลี่ ซ้ำเติม เหยียบย่ำคนติดโควิด อยากให้คนในชุมชนคิดว่าถ้าคนในครอบครัวคุณติดโควิดจะเป็นอย่างไร และฝากบอกหน่วยงานภาครัฐขอให้ดูแลทุกชุมชนแบบเสมอภาค ฝากไปถึงรัฐบาลด้วยว่า ทุกคนอยากให้มีการตรวจโควิดเชิงรุก ทุกคนอยากฉีดวัคซีนค่ะ
ลำดับต่อมาเป็นเวทีเสวนา “พนันกับโควิด ภัยร้ายใต้ภูเขาน้ำแข็ง” วิทยากรคนแรก
รศ.ดร. นวลน้อย ตรีรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน กล่าวถึงผลสำรวจสถานการณ์ พฤติกรรม และผลกระทบการพนันในประเทศไทย ปี 2564 เก็บข้อมูลประชากรที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป จำนวน 6,871 ตัวอย่าง ระหว่าง 20 กุมภาพันธ์ ถึง 8 เมษายน 2564 พบว่า ปี 2564 มีคนไทยเล่นการพนัน 32,329,717 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ถึงร้อยละ 6.3 เกือบทุกกลุ่มที่มีสัดส่วนคนเล่นพนันเพิ่มขึ้นมาก ทั้งเด็ก เยาวชน กลุ่มอายุ 30-59 ปี และผู้สูงวัย ประเภทการพนันที่คนไทยนิยมแทงพนันมากที่สุดยังคงเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาลและหวยใต้ดิน ถัดมาคือ ไพ่พนัน พนันทายผลฟุตบอล ไฮโล/โปปั่น/น้ำเต้าปูปลา วัวชน/ไก่ชน หวยต่างประเทศ และอื่นๆ ด้านผลกระทบ พบว่า ร้อยละ 15.1 ของคนเล่นพนันระบุว่าได้รับผลกระทบจากการเล่นพนัน ปัญหาอันดับแรกๆ คือ ขาดเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ปัญหาความเครียดหรือสุขภาพจิต มีหนี้สินจากการเล่นพนัน
คนที่เคยเล่นการพนัน แต่ในปี 2564 หยุดเล่นพนัน มีถึงร้อยละ 24.6 ในจำนวนนี้ ร้อยละ 52.3 ระบุว่ามีผลดีจากการหยุดเล่นพนัน อันดับแรกคือ ทำให้เก็บเงินได้มากขึ้น ประมาณ 7,384 บาทต่อปี หรือประมาณการรวม 3 แสนกว่าล้านบาท ผลดีอื่นๆ เช่น ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์มากขึ้น สบายใจ สุขภาพจิตดีขึ้น ความสัมพันธ์กับครอบครัวดีขึ้น สุขภาพกายดีขึ้น มีสมาธิในการเรียนหรือการทำงานมากขึ้น และไม่เป็นหนี้นอกระบบ
ช่วงที่มีการล็อกดาวน์ 26 มีนาคม ถึง 30 มิถุนายน 2563 มีคนเล่นพนันน้อยลง ร้อยละ 57.5 และหยุดเล่นพนัน ร้อยละ 13.7 เหตุผลคือ กองสลากฯ งดออกรางวัล ไม่มีแหล่งให้เล่น ประหยัดค่าใช้จ่าย รายได้ลด ต่างจากช่วงระบาดระลอกใหม่ ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2563 ถึงวันสุดท้ายของการสำรวจ คือวันที่ 8 เมษายน 2564 พบว่า มีคนหยุดเล่นพนันเพียงร้อยละ 1.2 และเล่นน้อยลง 41.2 เหตุผลคือ ประหยัดค่าใช้จ่าย รายได้ลด เลี่ยงการพบปะกลัวติดโควิด
น่าสังเกตว่า ตอนล็อกดาวน์ปีที่แล้วคนเล่นพนันลดลงมาก แต่การระบาดระลอกใหม่คนเล่นพนันลดลงไม่มากนัก อาจเป็นเพราะมีการปรับตัว เล่นพนันเป็นกลุ่มเล็กๆ คนเล่นพนันในบ่อนส่วนใหญ่เล่นพนันกันเอง เล่นกับบ่อนในชุมชน บ่อนวิ่ง บ่อนงานศพ แม้จำนวนคนเล่นพนันในบ่อนและวงเงินพนันจะลดลงเมื่อเทียบกับปี 2562 ก็ถือว่าไม่มากนัก ส่วนที่น่าสนใจคือ กลุ่มที่เล่นพนันมากขึ้นคือคนที่เล่นพนันออนไลน์ ปี 2564 พนันออนไลน์เติบโตแบบก้าวกระโดด เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2562 มีจำนวนคนเล่นพนันออนไลน์เพิ่มขึ้น 135.8% วงเงินพนันออนไลน์เพิ่มขึ้น 431.3% ประเภทการพนันออนไลน์ที่คนนิยมเล่นคือ บาคาร่า ป๊อกเด้ง ซึ่งก็คือ พนันไพ่
สลากกินแบ่งรัฐบาล ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา กองสลากฯ งดจำหน่ายสลาก 3 งวด ทำให้วงเงินพนันหมุนเวียนในปี 2564 ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2562 แต่ในทางกลับกัน วงเงินพนันต่องวดปี 2564 สูงกว่าปี 2562 กล่าวคือ ปี 2562 วงเงินพนันสลากกินแบ่งรัฐบาลอยู่ที่ 6.27 หมื่นล้านบาทต่องวด เพิ่มขึ้นเป็น 6.665 หมื่นล้านต่องวด คู่ขนานกันคือ หวยใต้ดิน มีวงเงินพนันหมุนเวียนตลอดปีลดลง แต่วงเงินพนันต่องวดเพิ่มขึ้น โดยการพนันทั้งสองประเภทมีจำนวนคนเล่นพนันในปี 2564 เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2562 มากกว่าร้อยละ 8 และที่น่าสนใจคือ การเติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดดของหวยอื่นๆ ที่มีจำนนคนเล่นพนันในปี 2564 มากกว่าปี 2562 ถึง 1 เท่า หรือร้อยละ 100 และมีวงเงินพนันเพิ่มขึ้นร้อยละ 117 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2562 โดยร้อยละ 38 เป็นการเล่นพนันผ่านช่องทางออนไลน์
การพนันทายผลฟุตบอล แม้การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะทำให้การแข่งขันฟุตบอลประสบปัญหา แต่ปี 2564 จำนวนคนไทยเล่นพนันทายผลฟุตบอลเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 10.6 และมีวงเงินพนันหมุนเวียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.8 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2562 ในจำนวนนี้ ร้อยละ 13 เป็นการเล่นพนันผ่านช่องทางออนไลน์
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ในสถานการณ์ปัจจุบัน เราต้องรักษาตัวเอง ต้องไม่ใกล้ชิดหรือสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ สถานการณ์โควิดตอนนี้เป็นการติดในครอบครัว ติดทั้งครอบครัว ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสูง คนเสียชีวิตเพิ่ม เพราะคนอยู่บ้านมักอ่อนแอกว่า การสูญเสียคนในครอบครัวทำให้คนทุกข์ใจ บางคนโทษตัวเอง เรื่องการพนัน ธรรมชาติของการเล่นพนันเป็นการเพิ่มความเสี่ยง ไปบ่อน ติดโควิด พาโควิดกลับมาติดคนทั้งบ้าน แม้การเล่นพนันในสถานที่ขนาดใหญ่จะทำได้ยาก แต่การเล่นกลุ่มเล็กๆ มีมากขึ้น เป็นจุดเล็กๆ ที่มีความเสี่ยงสูง ชุมชนต้องดูแลไม่ให้คนอยู่ร่วมกัน ห้ามเล่นพนัน
นอกจากนั้น พญ.พรรณพิมล กล่าวถึงคนเล่นพนันว่ามี 3 กลุ่ม ได้แก่
1. กลุ่มติดพนัน ไม่ว่าจะมีอะไรมาขวางก็จะหาทุกวิถีทางเพื่อเล่นพนัน
2. พอหยุดตัวเองได้ กลไกครอบครัวและชุมชนจะเบรกกลุ่มนี้ไว้ได้
3. กลุ่มใหม่ มีภาวะสุขภาพใจเหนื่อยล้า เริ่มมองหาหรืออยากทำอะไรก็ได้ที่ไม่เป็นเหตุเป็นผล ไม่มีความหมาย อารมณ์นี้กำลังผลักคนไปหาเรื่องใหม่ๆ อย่างการพนันที่มีแรงกระตุ้นเชิญชวน ทำให้คนกลุ่มนี้หันไปเล่นพนัน
ด้านการต่อสู้กับสถานการณ์ พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า ต้องใช้พลังใจ พลังใจมาจาก 3 แหล่ง คือ 1. ตัวเราเอง บางขณะเรื่องมันซับซ้อนกว่าคนหนึ่งคนจะรับมือได้ ต้องอาศัยพลังใจที่มาจาก 2. ครอบครัว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น คำพูดเล็กๆ น้อยๆ ของคนในครอบครัว คนใกล้ชิด คนในชุมชน จะส่งผลต่อพลังใจ และ 3.กลไกการรวมกลุ่ม การเปิดพื้นที่ให้คนได้คุยกัน มองเห็น ยอมรับ เอื้ออะไรบางอย่างให้กันและกัน จะทำให้ทุกคนได้พลังใจมากขึ้น
นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน กล่าวถึงความเดิมก่อนโควิดระบาด คนไทยเล่นพนันหลักๆ 5 ประเภท ได้แก่ 1. สลากกินแบ่งรัฐบาล 2. หวยใต้ดิน 3. ไพ่ 4. การพนันในบ่อน เช่น บ่อนไฮโล บ่อนไก่ บ่อนในเมือง บ่อนในชุมชน บ่อนงานศพ และ 5. พนันทายผลฟุตบอล ส่วนใหญ่เล่นพนันมานาน สิบยี่สิบปี ยกเว้นพนันฟุตบอล จึงมีความเคยชินมาก พอโควิดระบาดและแหล่งพนันเป็นคลัสเตอร์ทำให้เกิดการช็อคไปชั่วขณะ ประกอบกับเดือนเมษายน 2563 สำนักงานสลากฯ งดออกรางวัล 3 งวด ขณะที่มีการล็อคดาวน์ในหลายจังหวัด เป็นผลให้คนหยุดเล่นหรือเล่นพนันน้อยลงจนอาจเรียกว่า “โควิดหยุดพนันได้สำเร็จ” แต่พอเกิดคดีบ่อนพระราม 3 แสดงให้เห็นว่าบ่อนกลับมาเปิดกันอีก ขณะที่หวยก็ค่อยๆ เริ่มกลับคืนสภาพตามเดิม ยิ่งปลายปี 2563 บ่อนกลับมาเปิดทั้งตามชายแดนและในประเทศ จนเกิดกรณี 1G1 และบ่อนภาคตะวันออก ทำให้บ่อนใหญ่ต่างพากันหลบลงไปอีก แต่กลับเกิดการลักลอบเล่นพนันในขนาดที่เล็กลง พร้อมกับการระบาดของโควิดระลอกใหม่ ที่ทำให้นายกรัฐมนตรีต้องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมา และขอให้ประชาชนแจ้งเบาะแสแก่รัฐบาล ทำให้พบว่าการพนันไม่ได้หายไปไหน เพราะมีการร้องเรียนอย่างต่อเนื่องเดือนละ 100-200 เรื่อง แสดงให้เห็นว่า นักพนันไม่กลัวโควิดแล้ว และกลับมาเล่นพนัน 5 ประเภทกันเหมือนเดิม คือ “สลาก-หวย-ไพ่-บ่อน-บอล”
หากเชื่อมโยงโควิดกับการพนัน กลุ่มสลาก-หวย-บอล ไม่ได้ใช้พื้นที่ในการเล่นพนัน แต่อาจรับเชื้อจากคนกลางที่รับแทงพนันหรือคนเดินโพย ประเภทการพนันที่น่าเป็นห่วงมากสุด คือ กลุ่มไพ่พนันและพนันในบ่อน เพราะมีการรวมตัวกัน อยู่ในพื้นที่แออัด และใช้เวลาเล่นพนันหลายชั่วโมง ทำให้มีความเสี่ยงสูงในการแพร่เชื้อ-ติดเชื้อ
เหตุที่คนเล่นพนันไม่กลัวโควิดอาจเป็นเพราะ 1. เล่นพนันมานานจนติด ไม่เล่นไม่ได้ 2. คนเล่นพนันมักคิดว่าการเล่นพนันเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน 3. นักพนันไม่เคยกลัวการถูกจับ 4. โควิดทำให้คนไทยมีเวลาว่างมากขึ้น จำนวนหนึ่งหันไปหาพนัน และ 5. นักพนันบางคนประมาท คิดว่าจะไม่ติดโควิดจากบ่อนพนัน หรือบางคนคิดว่าถึงติดก็รักษาฟรี เพราะรัฐบาลดูแล และไม่ได้คิดว่าตนมีโอกาสจะแพร่เชื้อไปให้กับคนใกล้ตัว ทั้งคนในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน หรืออื่นๆ ซึ่งจะพลอยทำให้คนเหล่านั้นเดือดร้อนไปด้วย
ตอนนี้สังคมต้องตระหนักว่าบ่อนพนันยังคงอยู่ ไม่หายไป มีบ่อนเป็นดาวกระจายทั่วไปในชุมชนเยอะมาก คนกลุ่มหนึ่งเป็นทั้งนักพนัน นักเที่ยว นักดื่ม ทำให้กลายเป็นตัวเพิ่มเชื้อไฟในสถานการณ์โควิดให้เพิ่มมากขึ้น การเยียวยาในชุมชนสามารถทำได้โดยต้องสร้างชุมชนให้แข็งแรง ร่วมมือและช่วยเหลือผู้นำชุมชน เติมพลังให้ผู้นำชุมชน ทำให้ชุมชนสามารถดูแลกันเองได้ และต้องสร้างความรู้ความเข้าใจกัน สร้างชุดการเรียนรู้เพื่อนำมาใช้ในชุมชน จะได้สามารถแก้ปัญหาในชุมชน ในประเด็นนี้ ต้องฝากถึงรัฐบาลด้วยว่า ควรเคารพคุณค่าของคนในชุมชน เติมความสุขให้คนในชุมชนเพื่อให้ผ่านวิกฤตโควิดไปด้วยกันให้ได้
การประชุม "ก้าวย่าง บนทางเสี่ยง : การพนันในโลกที่กำลังเปลี่ยนไป"
24 กุมภาพันธ์ 2565เสวนาออนไลน์ "ปราบพนันออนไลน์ ... เรื่องพูดง่ายที่ทำไม่สำเร็จ"
11 ตุลาคม 2564เสวนาออนไลน์ "พนันกับโควิด ภัยร้ายใต้ภูเขาน้ำแข็ง"
02 กรกฏาคม 2564การเสวนา "เสพติดพนัน - ความใหญ่โตของปัญหาและแนวทางแก้ไข"
26 พฤศจิกายน 2562การเสวนา "ล่อ ลวง พราง การตลาดเหนือเมฆของเว็บพนันออนไลน์"
15 พฤศจิกายน 2562