ทุนจีนเทาใต้เงามังกร ยุทธการกวาดล้างพนันออนไลน์

โดย CGS Team

ทุนจีนเทาใต้เงามังกร ยุทธการกวาดล้างพนันออนไลน์

นับตั้งแต่ดำรงตำแหน่งผู้นำจีน ค.ศ. 2012 ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงได้ประกาศให้การต่อสู้กับการคอร์รัปชั่นเป็นวาระแห่งชาติ เริ่มต้นด้วยการแก้ไขปัญหาจากรากฐาน แก้ไขปัญหาจากต้นจนจบ โดยมุ่งเป้าที่จะทำให้เจ้าหน้าที่และข้าราชการ ‘ไม่กล้าทุจริต’ เพราะเคารพประชาชน ‘ไม่สามารถทุจริต’ เพราะระบบวินัย และ ‘ไม่อยากทุจริต’ เพราะมีจิตสำนึกสูง

เนื่องจากการพนันมีความสัมพันธ์กับการฟอกเงินและการคอร์รัปชั่น รัฐบาลสีจิ้นผิงจึงมีนโยบายเชิงรุกในการปราบปรามการพนันที่ผิดกฎหมาย ทั้งการจัดให้มีการพนันในประเทศอย่างผิดกฎหมาย และการจัดให้มีการพนันในต่างประเทศที่มีลูกค้าเป็นชาวจีน 

 

จีนปรับปรุงกฎหมาย กฎเกณฑ์

บทความ “จีนกับอุตสาหกรรมการพนัน” (2565) ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร สรุปพัฒนาการนโยบายการพนันของจีนไว้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการพนันให้เข้มงวดมากขึ้น บทลงโทษรุนแรงขึ้น และให้ประสานการทำงานแบบข้ามหน่วยงาน ดังนี้

ศาลประชาชนสูงสุด สำนักงานอัยการประชาชนสูงสุด และกระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์ ออกประกาศหลายฉบับ เช่น

• กำหนดให้การเปิดเว็บพนันออนไลน์เป็นการเปิดบ่อนการพนัน โดยความรุนแรงของโทษขึ้นกับปริมาณเงินพนันและจำนวนผู้เข้าเล่นพนัน 

• กำหนดให้การเปิดให้พนันโดยใช้เครื่องเป็นความผิดฐานพนัน โดยความรุนแรงของโทษขึ้นกับจำนวนเครื่อง สถานที่ตั้ง ปริมาณเงินพนัน และจำนวนผู้เข้าเล่นพนัน

• การกระทำที่นำไปสู่หรือเกี่ยวเนื่องกับการพนันข้ามพรมแดน ทั้งโดยกายภาพและออนไลน์ เข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดฐานพนัน 

 

คณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติ ฝ่ายนิติบัญญัติ แก้ไขกฎหมายอาญา เพิ่มเนื้อความในวรรคท้าย มาตรา 303 ว่า “ห้ามจัดให้ประชาชนชาวจีนเล่นการพนันนอกพรมแดน และให้มีโทษเช่นเดียวกับการกระทำความผิดฐานเปิดบ่อนการพนัน” และมาตรการ 191 เพิ่มโทษความผิดฐานฟอกเงิน “ให้ริบทรัพย์และประโยชน์ทั้งหมดที่ได้จากการกระทำความผิด”

กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ขึ้นบัญชีดำรายชื่อ (Blacklist) สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นบ่อนการพนันข้ามพรมแดน นับถึงเดือนธันวาคม 2021 มีสามบัญชี แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าเป็นที่ไหน

ยิ่งกว่านั้น เดือนกรกฎาคม 2019 กระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์ประกาศนโยบายกวาดล้างการพนันออนไลน์ข้ามพรมแดนภายใน 3 ปี ผ่านการทลาย 3 ห่วงโซ่แห่งการกระทำความผิด ได้แก่ ห่วงโซ่การเงิน ห่วงโซ่เทคโนโลยี และห่วงโซ่แรงงาน โดยการร่วมมือระหว่างหลายหน่วยงาน ทั้งกระทรวงต่างประเทศ ธนาคาร กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว หน่วยงานควบคุมอินเทอร์เน็ต สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ฯลฯ ข้อมูลถึงเดือนเมษายน 2021 มียอดการจับกุมกว่า 17,000 คดี ผู้กระทำความผิดกว่า 110,000 ราย

 

{#img21.jpg}

 

ทำไมต้องเป็นอาเซียน

เนื่องจากจีนไม่อนุญาตให้มีคาสิโนถูกกฎหมายในประเทศ นอกจากมาเก๊า ทุนคาสิโนจึงลงทุนตามแนวชายแดนจีน-เมียนมาร์และจีน-ลาว เพื่อให้บริการลูกค้าชาวจีน กระทั่งเกิดปัญหาเจ้าหน้าที่รัฐของจีนติดหนี้พนัน/ถูกกักขัง รัฐบาลจีนจึงใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด ทำให้เมืองคาสิโนเหล่านั้นต้องปิดตัวลง กอปรกับปฏิบัติการตรวจจับบริษัททัวร์พนันในมาเก๊าที่ยุ่งเกี่ยวกับการฟอกเงิน ทุนคาสิโนจึงต้องเคลื่อนย้ายหาแหล่งลงทุนใหม่

ด้านหนึ่งย้ายไปตั้งหลักในฟิลิปปินส์ อีกด้านลงทุนบริเวณชายแดนไทย ทั้งฝั่งพม่าและลาว พอจีนมีนโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) ทุนคาสิโนก็รุกเข้าสู่สีหนุวิลล์ ก่อนขยับตัวสู่ชายแดนไทย ทำให้กว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมา คาสิโนชายแดนไทยส่วนหนึ่งมีลูกค้าหลักเป็นชาวจีน ไม่ใช่คนไทย 

ข้อพิสูจน์ปรากฏชัดเมื่อจีนกดดันให้ฟิลิปปินส์จริงจังกับการต่อต้านการฟอกเงิน ทำให้พบการโยกย้ายเงินที่เชื่อมโยงถึงคาสิโนและบริษัททัวร์พนันผ่านบัญชีที่น่าสงสัยมากขึ้นหลายเท่า คู่ขนานกับการฉ้อโกงทางไซเบอร์และการค้ายาเสพติดที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน 

วิธีการฟอกเงิน ที่ได้มาจากการฉ้อโกง ค้ายาเสพติด และสารพัดเงินผิดกฎหมาย ทำได้ง่ายๆ ผ่านคาสิโนและบริษัททัวร์พนัน ดังนี้ 

การฟอกเงินแบบดั้งเดิม บริษัททัวร์พนันจะขนเงินสดเข้าไปในบ่อนเพื่อเปลี่ยนเป็นชิป นำชิปไปเล่นพนันจำนวนหนึ่ง แล้วแลกชิปที่เหลือทั้งหมดเป็นเงินสด เพียงเท่านี้เงินผิดกฎหมายก็จะกลายเป็นเงินสะอาด 

การฟอกเงินยุคดิจิทัล เงินฉ้อโกงที่โอนผ่านบัญชีต่างๆ จะไปจบที่บริษัททัวร์พนัน แลกเป็นชิปให้นักพนันวีไอพีใช้เล่นพนันในคาสิโน ทำซ้ำหลายรอบ ใช้เวลาหลายสัปดาห์ แล้วค่อยแลกชิปเป็นเงิน ซึ่งจะกลายเป็นเงินสะอาด 

 

กดดัน ปราบปราม

การเอาจริงเอาจังในการกวาดล้างการพนันออนไลน์ข้ามพรมแดนของจีน มีนัยต่อการย้ายฐานการลงทุนของทุนคาสิโน ซึ่งในระยะหลังๆ หลายกลุ่มขยายตัวสู่การฟอกเงิน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการค้ามนุษย์ ทำให้ถูกเรียกขานว่า “ทุนจีนเทา” ทว่าจีนก็มีปฏิบัติการกดดันประเทศปลายทางให้ปรับทิศทางนโยบาย และร่วมมือปราบปรามทุนจีนเทา ณ ประเทศปลายทางจนเห็นผลชัดเจน

ด้านนโยบาย จีนกดดันรัฐบาลฟิลิปปินส์ กระทั่งปลายปี 2019 ฟิลิปปินส์ยกเลิกใบอนุญาตประกอบกิจการพนันออนไลน์กว่า 28 ฉบับ ปิดเว็บพนันออนไลน์ แพลตฟอร์มการจ่ายเงินออนไลน์ และต้นปีถัดมายกเลิกใบอนุญาตทำงานของชาวจีนที่มีประวัติอาชญากรรมตามรายชื่อในบัญชีของสถานทูตจีน ในเวลาไล่เลี่ยกัน จีนกดดันรัฐบาลกัมพูชา กระทั่งนายกรัฐมนตรีฮุนเซนประกาศแบนการพนันออนไลน์ในกัมพูชาทั้งหมด เริ่มมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2020

ด้านปราบปราม จีนร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของไทย ลาว และเมียนมาร์ จัดตั้งศูนย์ประสานงานที่จังหวัดเชียงใหม่ ในเดือนสิงหาคม 2023 เพื่อปราบปรามการพนันออนไลน์และการฉ้อโกงออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ มีข่าวการจับกุมทุนจีนในประเทศแถบนี้ต่อเนื่อง เฉพาะช่วงเดือนสิงหาคม - ธันวาคม 2023 จับผู้กระทำความผิดและส่งกลับจีนได้ถึง 40,000 คน

กรณีโด่งดังในไทย การจับกุมตัวนายสือ จื้อเจียง (She Zhijian) เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2022 และวันที่ 25 พฤษภาคม 2023 ศาลอาญาไทยมีคำสั่งให้ส่งตัวนายสือเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปยังจีน ตามคำร้องขอของรัฐบาลจีน เพื่อดำเนินคดีในฐานความผิด เปิดบ่อนคาสิโนโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งเว็บพนันออนไลน์และบ่อนพนันที่เมียนมาร์ มีผู้เข้าเล่นพนันกว่า 330,000 คน สร้างความเสียหายมากกว่า 150 ล้านหยวน 

 

{#img22.jpg}

 

คำตัดสินของนายสือจะเป็นเช่นไร น่าจะพอเทียบเคียงได้จากคำตัดสินของศาลจีนที่สั่งจำคุกนายเอลวิน โจว (Alvin Chau) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Sun City Group และนายเล่ยหวู่ เฉิน (Levo Chan) ประธานบริษัท Tak Chun Group และซีอีโอของ Macau Legend Development Group เป็นเวลา 18 ปี และ 14 ปี ตามลำดับ ด้วยข้อหาเปิดบ่อนการพนันที่ผิดกฎหมาย การฟอกเงิน และเป็นหัวหน้าองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

ถ้าไทยทำเช่นเดียวกับจีน กำหนดความผิดฐานพนันให้ขึ้นกับปริมาณเงินพนันและจำนวนผู้เข้าเล่นพนัน เอาจริงเอาจังกับการกวาดล้างการพนันผิดกฎหมาย ปัญหาการพนันและการคอร์รัปชั่นในสังคมไทยจะลดลง และจะทำให้การค้ายาเสพติดและการค้ามนุษย์ลดลงด้วย