การพนันในประเทศไทยมีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน การพนันแบบไทยแท้มักอิงการใช้สัตว์สู้กัน เช่น ชนไก่ ปลากัด จวบจน พ.ศ. 2473 รัชกาลที่ 7 จึงได้ตราพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2473 ขึ้นมา นับเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการพนันฉบับแรกของไทย โดยรวบรวมกฎหมายเกี่ยวกับการพนันเรื่องต่าง ๆ มาไว้ในที่เดียวกัน ก่อนที่ต่อมาจะมี พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 ในทางเนื้อหาคือการเพิ่มเติมประเภทของการพนันเข้าไปเพื่อให้ครอบคลุมการพนันชนิดต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะยังคงใช้บังคับจนถึงทุกวันนี้ นั่นคือนานกว่า 85 ปีมาแล้ว ขณะเดียวกันก็มี พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 ซึ่งให้อำนาจสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลมีอำนาจออกสลากกินแบ่งรัฐบาลและดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องแต่ผู้เดียว
โดยรวมแล้ว กฎหมายการพนันของไทยยังมีปัญหาเรื่องการบังคับใช้หลายประการ เช่น ยังมีความไม่ชัดเจนของตัวบท โดยเฉพาะกับนิยามของคำว่าการพนัน การโฆษณา เนื้อหาล้าสมัย ไม่รวมถึงรูปแบบการพนันที่เกิดขึ้นใหม่ และอัตราโทษไม่เหมาะสม เพราะน้อยเกินไป
และที่สำคัญ ประเทศไทยไม่ได้มีกฎหมายควบคุมการพนันบนพื้นที่ทางอินเทอร์เน็ตโดยตรง หากแต่เป็นการนำ พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 มาปรับใช้ให้เข้ากับการพนันออนไลน์ เนื่องจากถือเป็นการพนันประเภทอื่นนอกเหนือจากที่ถูกระบุไว้ในบัญชี ก. (ห้ามมิให้ออกใบอนุญาตเด็ดขาด) เช่น ไพ่สามใบ ไฮโลว์ บาการา สล็อทแมชีน และบัญชี ข. (สามารถออกใบอนุญาตให้ได้) เช่น ชนโค แข่งม้า บิงโก บิลเลียด อีกทั้งมิได้ระบุชื่อและเงื่อนไขไว้ในกฎกระทรวงจึงไม่สามารถอนุญาตให้จัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ได้เลย
กฎหมายฉบับนี้มีบทลงโทษกับทั้งผู้จัดให้มี ผู้เล่น (แม้จะเป็นการเล่นผ่านเว็บไซต์ที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องในต่างประเทศก็ตาม) และผู้โฆษณา ทว่าเว็บไซต์การพนันส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ การจะนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีในไทยจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก กลายเป็นข้อจำกัดสำคัญในการบังคับใช้กฎหมาย ตลอดจนการพนันออนไลน์มีลักษณะที่ค่อนข้างแตกต่างจากการพนันทั่ว ๆ ไป นั่นคือผู้เกี่ยวข้องกับธุรกิจนี้มักอยู่ในรูปนิติบุคคล โทษจำคุกย่อมไม่สำคัญเท่ากับโทษปรับในอัตราสูง โดยที่ผ่านมายังไม่เคยมีแนวคำพิพากษาของศาลฎีกาในคดีเกี่ยวกับการพนันออนไลน์มาก่อน ทั้งที่ในปีหนึ่ง ๆ ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้เฉลี่ยปีละ 9 พันกว่าคน อีกทั้งการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังมักเกิดขึ้นเพียงบางช่วงคือ ช่วงฟุตบอลโลกหรือฟุตบอลยูโรเท่านั้น ดูได้จากสถิติของปี 2561 ที่คดีพุ่งสูงขึ้นหลายเท่าตัวเป็นประวัติการณ์ก็คือปีที่มีการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซียนั่นเอง
ในทางกฎหมายคอมพิวเตอร์ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา สามารถร้องขอต่อศาลเพื่อให้มีคำสั่งระงับการเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์บางส่วนหรือปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์การพนันได้ โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 ในปี 2560 ซึ่งทางศาลก็เห็นว่าการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน จัดว่าเข้าข่ายขัดต่อ “ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน” เช่นเมื่อต้นปี 2562 ศาลได้สั่งปิดกั้นเว็บไซต์พนันออนไลน์ตามคำขอของตำรวจถึง 748 เว็บไซต์ แต่ก็ยังนับว่าน้อยมากเมื่อเทียบจำนวนที่มีอยู่จริง
ทุกวันนี้เราจึงพบเห็นโฆษณาการพนันออนไลน์หลาย ๆ รูปแบบด้วยกัน ทั้งแบนเนอร์ ป๊อปอัพ แปะลิงค์ ไม่ว่าบนเว็บไซต์หรือในเครือข่ายสังคมออนไลน์ยอดนิยมทุกชนิด ทั้งเฟซบุ๊ก ยูทูป ไลน์ อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ ตลอดจนแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ โดยมักพบเสมอเมื่อเข้าไปยังแหล่งที่มีเนื้อหาล่อแหลม เช่น เว็บไซต์รับชมภาพยนตร์/ถ่ายทอดสดฟุตบอลที่ละเมิดลิขสิทธิ์ หรือลามกอนาจาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับวิธีการที่ให้นักพากย์ฟุตบอล/พริตตี้หรือเน็ตไอดอลที่มียอดผู้ติดตามเป็นจำนวนมากไลฟ์สด (Live) ชักชวนให้บุคคลอื่นเล่นพนัน ซึ่งก็มีบ้างที่ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย (พ.ร.บ.การพนัน) อยู่เนือง ๆ แต่ศาลมักตัดสินลงโทษจำคุกไม่กี่เดือน และให้รอการลงอาญาแทน สิ่งเหล่านี้จึงยังคงพบเจอได้เป็นปกติ มิพักเอ่ยถึงกิจกรรมสื่อสารการตลาดและโฆษณาแอบแฝงรูปแบบต่าง ๆ เช่น การเป็นผู้สนับสนุนให้แก่สโมสรฟุตบอลอังกฤษ
การพนันออนไลน์แตกต่างจากการพนันในรูปแบบเดิมอย่างมาก ทั้งเป้าหมายกว้างไกล ข้ามรัฐ และครอบคลุมตลาดทั่วโลก เกินขีดความสามารถของรัฐที่จะควบคุมไว้ได้ กฎหมายก็ยากที่จะบังคับใช้อย่างได้ผลจริงในโลกดิจิทัล
ระบบกฎหมายเกี่ยวกับการพนันออนไลน์จึงค่อนข้างซับซ้อนหลากหลาย แตกต่างกันไปตามท่าทีของแต่ละประเทศ เอาแค่ชื่อเรียกก็มีหลายคำแล้ว ไม่ว่า Internet Gambling (อเมริกา), Virtual Casino Wagering (แอนติกา), Interactive Gambling (ออสเตรเลีย), Interactive Gaming (แคนาดา), Remote Gambling (อังกฤษ), Online Games (ฝรั่งเศส), Online Gambling (เดนมาร์ก), Offshore Gambling (ฟิลิปปินส์) ทว่าประเทศส่วนใหญ่ในโลกไม่ได้มีกฎหมายว่าด้วยการพนันทางอินเตอร์เน็ต
ในกลุ่มประเทศที่มีกฎหมายว่าด้วยเรื่องนี้แบ่งได้เป็นทั้งที่ห้ามเด็ดขาด (Prohibition) โดยเฉพาะกับกลุ่มประเทศมุสลิม เช่น ซาอุดิอาราเบีย ปากีสถาน และอนุญาตให้มี (Regulated หรือ Legalization) บางประเทศอนุญาตให้มีทุกชนิด เช่น ออลเดอร์นีย์ อิตาลี สเปน สวีเดน ประเภทที่มักถูกห้ามไม่พ้นคาสิโน บางประเทศก็ยอมรับเพียงบางชนิด โดยเฉพาะลอตเตอรี่กับพนันกีฬา เช่น รัสเซีย ฮ่องกง แอฟริกาใต้ บางประเทศก็ไม่ยอมให้คนของตัวเองเข้าเล่น แต่มีเอาไว้บริการคนที่อยู่อาศัยนอกประเทศ (Outgoing Services) เช่น ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ บางประเทศก็มีขึ้นเพื่อสนองตลาดภายในเท่านั้น (Domestic Services) คนต่างชาติหมดสิทธิ เช่น ฟินแลนด์ บางประเทศก็เปิดกว้างมาก สามารถเล่นได้จากทั้งโลกรวมทั้งคนของประเทศตัวเอง เช่น อังกฤษ แอนติกา บางประเทศก็เรียกว่าแทบจะปล่อยให้เสรี ปราศจากการควบคุม (Unregulated หรือ Laissez-faire) เช่น คอสตาริกา ดังแผนผังข้างท้ายนี้
เรื่องระบบใบอนุญาต (License) ในรายละเอียดก็ไม่เหมือนกัน บางประเทศเป็นแบบเปิดกว้าง โดยให้มีผู้รับใบอนุญาตหลายรายแข่งขันกัน (Open Licensing) เช่น อังกฤษ บางประเทศก็เป็นแบบจำกัด เช่นในบางรัฐของสหรัฐอเมริกาออกใบอนุญาตให้แต่กับคาสิโนดั้งเดิมเท่านั้น หรือจำกัดจำนวนผู้ประกอบการให้มีน้อยราย (Restricted Licensing) เช่น อิตาลี ฝรั่งเศส หรือออกใบอนุญาตให้เอกชนรายเดียว (Single Private Operator) หรือใบอนุญาตนั้นผูกขาด (Monopoly) โดยหน่วยงานของรัฐเอง (State-owned) เช่น จีน สิงคโปร์
หลายประเทศมีลักษณะผสมผสานคือ การพนันบางชนิดยอมให้มีผู้ให้บริการหลายราย ส่วนบางชนิดกลับถูกผูกขาดโดยรัฐแต่เพียงผู้เดียว เช่นหลายประเทศแถบสแกนดิเนเวีย (ก่อนจะมีเรื่องมีราวขึ้นไปถึงศาลอียู) เหตุผลของรัฐบาลที่ทำให้การพนันออนไลน์ถูกกฎหมายที่ให้กับสังคมก็คือ เพื่อรัฐจะได้เข้าไปจัดการและควบคุมให้มีมาตรฐาน และเพื่อปกป้องคุ้มครองผู้เล่น โดยก่อตั้งองค์กรของรัฐขึ้นมาทำหน้าที่ควบคุม (Agency Authority) ทั้งที่อันที่จริงแล้วเกี่ยวพันกับประเด็นเรื่องแหล่งภาษีและรายได้เข้ารัฐ (Taxation and Revenue Collection) และเพื่ออุดช่องว่างมิให้เงินตรารั่วไหลออกนอกประเทศมากกว่า
แน่นอน ทุกประเทศล้วนวางบทลงโทษสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายเอาไว้ทั้งสิ้น ซึ่งความเข้มข้นทางเนื้อหาไม่เหมือนกัน ยังมิพักเอ่ยถึงความเอาจริงเอาจังในการบังคับใช้ที่ก็ย่อมแตกต่างกันออกไปอีก บางประเทศวางโทษรุนแรงและครบวงจร ไล่เรียงตั้งแต่ผู้ประกอบการ ผู้เล่น ผู้มีส่วนสนับสนุนทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม รวมถึงผู้โฆษณา แต่ในหลายประเทศกลับไม่คิดที่จะเอาผิดคนเล่นเลยแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ดี สถานการณ์ทางกฎหมายโดยรวมเป็นไปอย่างผ่อนคลายลงเรื่อย ๆ การเติบโตของตลาดอินเตอร์เน็ตในรอบสองทศวรรษที่ผ่านมามีผลให้ประเทศต่าง ๆ ร่วม 100 ประเทศแล้วที่ทำให้การพนันออนไลน์ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งถูกต้องตามกฎหมายของรัฐตน พบน้อยประเทศมากที่เลือกเดินสวนทางนี้
การจะปรับปรุงและพัฒนากฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ในประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล มีข้อเสนอดังนี้
หนึ่ง ประเทศไทยต้องมีการปฏิรูปกฎหมายว่าด้วยการพนันทั้งระบบให้ทันสมัย ยืดหยุ่น และต้องใช้ได้กับการพนันทางอินเทอร์เน็ตซึ่งมีพลวัตสูง ประเด็นปลีกย่อย เช่น อัตราโทษต้องมีความแตกต่างระหว่างผู้จัดให้มี คนเล่น และผู้โฆษณา เพิ่มฐานความผิดสำหรับผู้สนับสนุนโดยอ้อม มีมาตรการควบคุมการโฆษณาแอบแฝง รวมทั้งอายุของผู้เล่น
สอง จัดตั้งองค์กรควบคุมดูแลการพนันแห่งชาติเข้ามาทำหน้าที่วางนโยบาย กำหนดชนิดการพนันที่ถูกต้องตามกฎหมายซึ่งสามารถยื่นขออนุญาตได้ พร้อมวางมาตรฐานผู้ประกอบการ ตลอดจนมีมาตรการคุ้มครองผู้เล่น หากชนิดใดผิดกฎหมายก็ต้องปราบปรามอย่างจริงจัง โดยพึงระลึกเสมอว่าการพนันออนไลน์เข้าถึงกลุ่มเด็กและเยาวชนได้ง่าย ผู้เล่นเสี่ยงที่จะติดการพนันสูงกว่าการพนันแบบเก่า และซอฟต์แวร์เกมยังคงขาดความน่าเชื่อถือ
สาม ข้อเสนอให้เปิดคาสิโนขึ้นในไทยเพื่อหวังรายได้เข้าประเทศจากนักท่องเที่ยวต่างชาติต้องคิดใคร่ครวญให้หนัก เนื่องจากมีบทเรียนของหลายประเทศที่กำลังถูกคาสิโนออนไลน์เข้ามาสั่นคลอนทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากรายได้จากธุรกิจการพนันที่ลดลงไปอย่างมาก
ผู้เขียน :
ณัฐกร วิทิตานนท์
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.ราชภัฏเชียงใหม่
มาตรการทางกฎหมายของประเทศไทยในการควบคุมการพนันออนไลน์
โดย ณัฐกร วิทิตานนท์ตอนที่ 20 การพนันออนไลน์บนทางแพร่ง [จบ]
โดย ณัฐกร วิทิตานนท์ตอนที่ 19 การพนันออนไลน์ในประเทศไทย: เมื่อกฎหมายไม่มีความหมาย
โดย ณัฐกร วิทิตานนท์ตอนที่ 18 การพนันออนไลน์ในทวีปเอเชีย: ประสบการณ์ของฟิลิปปินส์และบทเรียนจากกัมพูชา
โดย ณัฐกร วิทิตานนท์ตอนที่ 17 การพนันออนไลน์ในสหภาพยุโรป: หลากมิติกฎหมายภายใต้แนวคิดตลาดเดียว
โดย ณัฐกร วิทิตานนท์