โดย ณัฐกร วิทิตานนท์ [1]
รัฐธรรมนูญสหรัฐมอบอำนาจการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย (Police Power) ให้กับมลรัฐ นั่นคือให้แต่ละรัฐสามารถที่จะออกกฎหมายควบคุมพฤติกรรมและบังคับใช้ให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยภายใน บนพื้นฐานเรื่องสุขภาพ ความปลอดภัย ศีลธรรม สวัสดิการทั่วไปของพลเมืองของตน การพนันก็ถูกยอมรับว่าอยู่ในขอบเขตของอำนาจของมลรัฐ (State power) ด้วย ซึ่งแต่ละรัฐก็มีท่าทีในเรื่องนี้แตกต่างกันออกไป
หลายรัฐบัญญัติเรื่องการพนันลงไปในรัฐธรรมนูญตัวเอง เช่น มอนทานา, นิวเจอร์ซีย์, แคลิฟอร์เนีย บางรัฐทำให้การพนันแทบทุกชนิดถูกกฎหมายของรัฐ บางรัฐยอมให้เพียงการพนันบางประเภท บางรัฐจำกัดสถานที่ให้เล่นคาสิโนแค่บนเรือ (River-boat Casino) บางรัฐยอมให้มีเฉพาะแต่คาสิโนขนาดย่อม (Racetrack Casino หรือที่นิยมเรียกย่อ ๆ Racinos) ขณะที่มีอยู่สองรัฐที่ไม่ยอมให้มีการพนันแบบใด ๆ เลย แม้แต่ลอตเตอรี่ คือ ยูทาห์กับฮาวาย โดยมีปัจจัยการเมืองระดับรัฐคือตัวกำหนดสำคัญ ซึ่งหลายครั้งก่อให้เกิดข้อขัดแย้งระหว่างรัฐขึ้น โดยเฉพาะกรณีของรัฐที่ตั้งอยู่ติดกันแต่กฎหมายไม่เหมือนกัน (การกระทำเรื่องเดียวกันให้ผลทางกฎหมายผิด/ถูกแตกต่างกัน) เช่น ยูทาห์กับเนวาดา, เนวาดากับแคลิฟอร์เนีย
พูดตามจริง นอกเหนือจากเนวาดากับนิวเจอร์ซีย์แล้ว คาสิโนเชิงธุรกิจ (Commercial Casino) เพิ่งก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างจนกลายเป็นอุตสาหกรรมที่เฟื่องฟูขึ้นมาเมื่อรอยต่อของทศวรรษ 1990 นี่เอง ปัจจุบันรวมแล้วมี 26 รัฐที่มีคาสิโนประเภทนี้ตั้งอยู่ นอกจากนี้แล้วยังมีคาสิโนอีกประเภทหนึ่งที่อนุญาตให้ตั้งได้เฉพาะในเขตอนุรักษ์ของชนเผ่าพื้นเมือง (Tribal Casino) ซึ่งเปิดให้บริการอย่างจำกัดอยู่ใน 28 รัฐด้วยกัน
วกกลับมาที่เรื่องของการพนันออนไลน์ จากการค้นคว้าพบว่ามีข้อถกเถียงมากมายในแต่ละรัฐ ความเห็นประชาชนเองก็ยังก้ำกึ่ง โดยห้วงแรก หลายรัฐแสดงท่าทีต่อต้านชัดเจน ด้วยการผลักดันให้มีกฎหมายของรัฐที่ใช้ห้ามปราม (Ban) การพนันออนไลน์ออกมาในเวลาไล่เลี่ยกันช่วงปี 2000 ได้แก่ เนวาดา หลุยส์เซียนา อิลลินอยส์ มิชิแกน เซาท์ดาโกตา ติดตามด้วยอินเดียนา มอนทานา โอเรกอน วอชิงตัน ตัวอย่างมาตรการต่าง ๆ เช่น ห้ามผู้ใดยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจพนันที่ใช้อินเทอร์เน็ตหรือคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลางในการเล่น ห้ามไม่ให้ตั้งเซิร์ฟเวอร์การพนันอยู่ในรัฐ ปิดกั้นเว็บไซต์การพนันมิให้คนที่อยู่อาศัยภายในรัฐเข้าถึง ฯลฯ หลายรัฐแม้ยังไม่มีกฎหมาย แต่ก็มีความกระตือรือร้นที่จะดำเนินคดีกับเจ้าของธุรกิจพนันข้ามชาติ เช่น วิสคอนซิน มินนิโซตา นิวยอร์ค มิสซูรี
และถึงแม้นสหรัฐอเมริกาจะไม่มีกฎหมายในระดับรัฐบาลกลางซึ่งเอาผิด ‘คนเล่น’ การพนันในทุกรูปแบบ แต่หากดูระดับรัฐถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งโทษฐานลักลอบเล่นการพนันออนไลน์ก็ค่อนข้างหนักเอาการ เช่น เนวาดา โทษจำคุก 1-6 ปี หรือปรับไม่เกิน $10,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ, อิลลินอยส์ โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี, หลุยส์เซียนา โทษปรับ $500 และ/หรือจำคุก 6 เดือน
ปัญหาที่สร้างความวิตกให้แก่รัฐเหล่านี้จนต้องมีมาตรการทางกฎหมายออกมา เป็นไปเพื่อปกป้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของรัฐจากแหล่งรายได้หลักที่มาจากธุรกิจการพนันแบบดั้งเดิม อย่างไรก็ดี ภายหลังเริ่มมีบางรัฐเปลี่ยนท่าทีหันไปในทางสนับสนุนการทำให้การพนันทางอินเทอร์เน็ตถูกกฎหมายอยู่บ้าง แต่ยังไม่มากนัก (ดูตารางข้างท้าย) ด้วยยอมรับความเป็นจริงว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะควบคุมมันได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เนื่องจากประสบความยากลำบากมากในการบังคับใช้กฎหมาย
ตารางแสดงมลรัฐที่รับรองให้การพนันทางอินเทอร์เน็ตถูกกฎหมายในประเทศสหรัฐอเมริกา
กล่าวได้ว่าในปัจจุบันครึ่งหนึ่งของรัฐทั้งหมดของอเมริกาไม่ได้มีกฎหมายโดยตรงเกี่ยวกับการพนันทางอินเทอร์เน็ต การพนันออนไลน์ยังคงเป็นธุรกิจสีเทา ๆ รัฐที่รับรองให้ถูกกฎหมายมีเพียง 5 รัฐจาก 50 รัฐ คิดเป็น10% เท่านั้น ได้แก่ เดลาแวร์, เนวาดา, นิวเจอร์ซีย์, เพนซิลเวเนีย และเวสต์เวอร์จิเนีย (แยกเป็นคาสิโนออนไลน์ 4 รัฐ และพนันกีฬาออนไลน์ 5 รัฐ) เหตุผลสนับสนุนหลักไม่พ้นเพื่อสร้างรายได้เข้ารัฐเพิ่มขึ้น ผลจากความนิยมที่เสื่อมถอยของคาสิโนแบบเก่านั่นเอง ในที่นี้หยิบเอาตัวอย่างของ 2 รัฐที่เป็นต้นตำรับอุตสาหกรรมคาสิโนของประเทศมาพูดถึง
รัฐเนวาดาเป็นที่ตั้งของลาสเวกัส เมืองหลวงของอุตสาหกรรมการพนัน ไม่ใช่แค่สหรัฐ แต่เป็นของโลก ย้อนไปในปี 1997 เนวาดากลายเป็นรัฐแรกที่กำหนดให้การพนันทางอินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งผิดกฎหมาย โดยยกเหตุผลสนับสนุนว่าเพื่อรักษาสุขภาพ ความปลอดภัย และสวัสดิภาพของพลเมืองของรัฐ กฎหมายนี้มุ่งเอาผิดทางอาญากับทั้งผู้เล่นและผู้จัดให้มีการพนันแบบออนไลน์ภายในรัฐ แม้นการพนันออนไลน์ดังกล่าวจะเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายในรัฐต้นทางก็ตาม อย่างไรก็ดี กฎหมายได้เขียนเปิดช่องไว้ว่าหากได้รับอนุญาตจากรัฐก็จะไม่ถือว่าเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมายแต่อย่างใด
ต่อมาในปี ค.ศ. 2001 ผู้ว่าการรัฐได้ลงนามในกฎหมาย Assembly Bill 466 ให้อำนาจคณะกรรมการควบคุมการพนันของรัฐ (Nevada Gaming Control Board) ในอันที่จะเสนอให้คณะกรรมการการพนันของรัฐ (Nevada Gaming Commission) พิจารณาให้มีการพนันทางอินเทอร์เน็ต (Interactive Gaming) ซึ่งไม่รวมถึงการพนันกีฬา ตลอดจนม้าแข่ง (ซึ่งมีกฎหมายของสภาคองเกรสควบคุมอยู่) แรกเริ่มอนุญาตให้เฉพาะกลุ่มทุนที่ได้ใบอนุญาตประเภทโรงแรม-คาสิโน (Hotel-casinos หรือ Resort Hotel) เท่านั้นที่จะสามารถขอทำคาสิโนออนไลน์ได้ เป็นเงื่อนไขที่ค่อนข้างเอื้อให้กับนักลงทุนรายใหญ่ เช่น โรงแรมต้องมี 120 ห้อง, ร้านอาหารเปิดตลอด 24 ชั่วโมง, ประกอบด้วย 1,600 ตู้พนัน และ 40 โต๊ะพนัน เก็บค่าใบอนุญาต 500,000 เหรียญในช่วงสองปีแรก จากนั้นตกปีละ 250,000 เหรียญ ขณะที่ภาษีอยู่ในอัตราร้อยละ 6.25 ของรายได้ เป็นอัตราเดียวกับที่เก็บจากคาสิโนแบบดั้งเดิม เงื่อนไขอันเข้มข้นนี้สะท้อนถึงความพยายามของรัฐเนวาดาในการปกป้องอุตสาหกรรมสำคัญของตัวเอง
กฎหมายฉบับนี้ทำให้การพนันออนไลน์ตั้งต้นขึ้นในรัฐเนวาดาแบบเป็นทางการ แม้ในทางปฏิบัติยังมิอาจเกิดขึ้นได้จริง ๆ เนื่องจากไปขัดแย้งกับจุดยืนทางนโยบายของรัฐบาลกลาง ซึ่งในปี 2002 กระทรวงยุติธรรมถึงกับต้องมีหนังสือแจ้งเตือนถึงบอร์ดการพนันของรัฐเนวาดาให้พึงระลึกว่าการพนันออนไลน์เป็นสิ่งต้องห้ามภายใต้กฎหมายสหรัฐ สอดรับกับความเคลื่อนไหวของนาย Sheldon Adelson เจ้าของธุรกิจในเครือ The Sands ที่มีฐานที่มั่นอยู่ที่ลาสเวกัสคือ Las Vegas Sands (LVS) และได้ไปลงทุนทำคาสิโนที่มีชื่อเสียงโด่งดังในหลายประเทศ เช่น Marina Bay Sands (สิงคโปร์), Sands Macao (มาเก๊า) Sheldon Adelson เป็นผู้สนับสนุนทางการเงินรายใหญ่ของพรรครีพลับบลิกัน เขาทุ่มเงินมหาศาลไปกับการรณรงค์-ล็อบบี้เพื่อคัดค้านมิให้การพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย โดยยกหลายเรื่องขึ้นอ้าง เช่น ไม่ส่งเสริมการจ้างงาน, กระทบต่อรายได้ของคาสิโนดั้งเดิมซึ่งที่ผ่านมาเป็นแหล่งภาษีสำคัญของรัฐ เขาเคยพูดถึงขนาดว่า “การพนันออนไลน์คือการฆ่าตัวตายของอุตสาหกรรมคาสิโน” โดยเรียกร้องให้รัฐบาลกลางต้องเข้าแทรกแซงรัฐที่กำลังคิดทำเรื่องนี้อยู่ให้ยุติบทบาท สถานการณ์จึงตกอยู่ในภาวะชะงักงันนานนับสิบปี
จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นในปี 2011 หลังกระทรวงยุติธรรมออกแถลงการณ์ยอมรับว่า Wire Act จำกัดการใช้แค่กับการพนันกีฬาเท่านั้น (ย้อนอ่านตอนที่ 12 http://www.gamblingstudy-th.org/issues_topic_1/354/1/1/online-casino-12/) เปิดประตูไปสู่การทำให้การพนันออนไลน์ถูกกฎหมายอีกคำรบ โดยได้ผ่านกฎหมายอีกฉบับคือ Assembly Bill 114 ที่มอบให้คณะกรรมการควบคุมการพนันของรัฐเป็นผู้ออกใบอนุญาตให้กับผู้ประกอบการธุรกิจการพนันออนไลน์ เริ่มที่โป๊กเกอร์ออนไลน์ ประเดิมด้วย Ultimate Poker ของกลุ่ม Station Casinos ในฐานะเว็บไซต์โป๊กเกอร์ออนไลน์ถูกกฎหมายแห่งแรกของสหรัฐฯ เริ่มให้บริการตั้งแต่ปี 2013 และยอมรับให้ใช้บัตรเครดิตเล่นพนันมาตั้งแต่ตอนนั้น ต่อมาจึงขยับขยายไปสู่การพนันประเภทอื่นบ้าง กำหนดขอบเขตบริการอยู่ภายในรัฐ และให้บริการข้ามรัฐได้ เฉพาะในกรณีที่รัฐปลายทางไม่ได้บัญญัติให้การพนันออนไลน์ผิดกฎหมายของตน
ภาพนาย Sheldon Adelson ขณะยืนเคียงข้างอยู่กับประธานาธิบดี Donald Trump [3]
รัฐนิวเจอร์ซีย์เป็นที่ตั้งของแอตแลนติกซิตี้ เมืองคาสิโนสำคัญอีกแห่งของประเทศ ในช่วงต้นทศวรรษที่ 2000 การพนันทางโทรศัพท์และผ่านอินเทอร์เน็ตถือว่ายังผิดกฎหมายนิวเจอร์ซีย์ อัยการรัฐได้ทำการปิดกั้นเว็บไซต์พนันไปเกินกว่าพันเว็บไซต์ รวมถึงดำเนินคดีกับบริษัทพนันที่ให้บริการพนันออนไลน์แก่ผู้เล่นที่พำนักอยู่ในรัฐ เช่น Royalclubcasino.com, 7sultans.com, Alohacasino.com แน่นอน เกือบทุกเว็บไซต์ไม่ปรากฏชื่อเจ้าของ และแทบทั้งหมดตั้งอยู่ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศหมู่เกาะ (เนื้อหาตอนต่อไป) จึงไม่สามารถดำเนินคดีกับผู้ใดได้ หลาย ๆ กรณีศาลไม่รับฟ้องด้วยซ้ำ เพราะไม่ทราบตัวผู้กระทำความผิด เมื่อจัดการกับผู้ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงไม่ได้ ฝ่ายเจ้าหน้าที่จึงเบนเข็มมุ่งเอาผิดกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในด้านต่าง ๆ แทน เช่น บริษัทที่ให้บริการทางการเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ผู้ผลิตซอฟต์แวร์เกมการพนัน รวมทั้งยังเคยฟ้องบริษัทประชาสัมพันธ์ที่ยอมให้เช่าป้ายเพื่อขึ้นโฆษณาการพนันออนไลน์มาแล้ว นิวเจอร์ซีย์จึงเป็นตัวอย่างของภาครัฐที่เอาจริงเอาจังในการต่อกรกับการพนันออนไลน์
แต่ต่อมาเกิดภาวะตกต่ำของอุตสาหกรรมการพนันโดยรวม ในห้วงเวลาแค่ 8 ปี คาสิโนที่แอตแลนติกซิตี้มากถึง 1 ใน 3 ต้องปิดตัวลง รายได้เข้ารัฐหายไปกว่าครึ่งหนึ่ง รัฐจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนนโยบาย และเดินหน้าผลักดันให้การพนันออนไลน์ถูกกฎหมายเต็มรูปแบบ จนทำสำเร็จในปี 2013 ด้วยการผ่าน Assembly Bill 2578 ที่มีข้อกำหนดสำคัญคือ ทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ตลอดจนอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ถูกใช้ในการทำเว็บไซต์พนันออนไลน์ต้องตั้งอยู่ที่คาสิโนในแอตแลนติกซิตี้เท่านั้น ผู้ประกอบการต้องมีใบอนุญาตทำคาสิโนแบบเดิมมาก่อนจึงจะยื่นขอทำคาสิโนแบบออนไลน์ได้ ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตแรกเข้าอยู่ที่ 400,000 เหรียญ และมีค่าใบอนุญาตแบบปีต่อปีอีกปีละ 250,000 เหรียญ อัตราภาษีรายปีอยู่ที่ร้อยละ 15 ของรายได้ (ขณะที่คาสิโนแบบดั้งเดิมเรียกเก็บเพียงร้อยละ 8) โดยยอมให้เพียงผู้ที่พำนักในนิวเจอร์ซีย์เท่านั้นที่สามารถสร้างบัญชีเพื่อเข้าเล่นการพนันได้ กลุ่มทุนที่เข้ามาเปิดตลาดแต่แรกเลย เช่น Borgata, Caesars, Tropicana และ Golden Nugget
หลังสิ้นสุดกรณี Cabazon อันโด่งดัง ธุรกิจการพนันพบที่ทางใหม่ของตัวเองอย่างไม่น่าเชื่อบนแผ่นดินอเมริกา เรื่องของเรื่องเริ่มจากชุมชน Cabazon ชุมชนเล็ก ๆ ของชาวอินเดียนแดงในรัฐแคลิฟอร์เนีย เปิดให้บริการห้องเล่นไพ่กับบิงโกให้คนทั่วไปเข้ามาเล่นภายในเขตอนุรักษ์ของตน เป็นเหตุให้ถูกเจ้าหน้าที่รัฐสั่งปิดในปี 1986 เพราะถือเป็นกิจกรรมการพนัน เข้าข่ายผิดกฎหมายของรัฐ ฝ่าย Cabazon ไม่ยอม ขอสู้คดีถึงที่สุด
คำพิพากษาของศาลสูงสุดในคดีนี้ (California v. Cabazon Band of Mission Indians (1987)) มองว่าเรื่องดังกล่าวชนพื้นเมืองมีสิทธิที่จะทำได้ เพราะมีอำนาจอธิปไตยของตนเองอยู่ (Tribal Sovereignty) กอปรกับรัฐแคลิฟอร์เนียเองก็เคยยอมให้การพนันชนิดอื่นถูกกฎหมายมาแล้วเช่นกัน
ผลของคดีนี้กระตุ้นให้สภาคองเกรสต้องตรากฎหมาย the Indian Gaming Regulatory Act (IGRA) ตามมาในปี 1988 โดยให้สิทธิพิเศษแก่ชนพื้นเมืองในการทำธุรกิจการพนันภายในเขตอนุรักษ์ของตนเอง ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น การพึ่งพาตนเอง และความเข้มแข็งของชุมชน ซึ่งตามกฎหมายแบ่งการพนันของชนเผ่าพื้นเมืองออกเป็น 3 ระดับ/ชั้น (Classes)
ระดับ 1 (Class I) การพนันพื้นบ้าน ทำได้เองโดยไม่ต้องไปขออนุญาตจากใคร
ระดับ 2 (Class II) พวกบิงโกและใกล้เคียง ตัดสินใจดำเนินการได้เอง แต่ต้องยึดแนวทางปฏิบัติของคณะกรรมการระดับชาติ (National Indian Gaming Commission: NIGC) โดยเคร่งครัด
ระดับ 3 (Class III) เกมคาสิโน เช่น แบล็คแจ็ค, บาคาร่า ตลอดจนเครื่องเกมอย่างสล็อตแมชชีน, วีดิโอโป๊กเกอร์ ทางรัฐต้องเห็นพ้องด้วย และประกอบกิจการภายใต้ข้อตกลงร่วมระหว่างมลรัฐกับชนพื้นเมือง
การพนันทางอินเทอร์เน็ตเป็นแค่ช่องทางใหม่ในการเล่น ซึ่งต้องคำนึงถึงระดับอำนาจในการบริหารจัดการที่สัมพันธ์กับ Class เหล่านี้ด้วยเสมอ ตัวอย่างเช่น ถ้าชุมชนพื้นเมืองประสงค์จะเปิดเว็บไซต์คาสิโนออนไลน์ (Class III) ก็จะต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐนั้น ๆ ก่อน แต่ถ้าเป็นบิงโกออนไลน์ (Class II) ก็ไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใด ทำได้ดังนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นการพนันที่ผิดกฎหมาย แต่ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่าจะต้องจำกัดขอบเขตการให้บริการเฉพาะภายในเขตอนุรักษ์เท่านั้น ไม่สามารถขยับขยายออกไปทำกิจการนอกเขตได้เป็นอันขาด ทว่าเอาจริง ๆ ก็พบความพยายามที่จะท้าทายอยู่ตลอด เช่น ตั้ง Server อยู่ในเขตอินเดียนแดงจริง แต่ให้คนนอกเขตเข้าเล่นโดยใช้ proxy เสมือนว่ากำลังเล่นอยู่ในเขต ฯลฯ
พิจารณาในเชิงนโยบาย ทาง NIGC ก็ไม่สู้จะเห็นด้วยนักกับการที่ชนเผ่าพื้นเมืองหันมาทำคาสิโนออนไลน์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะนั่นย่อมส่งผลสะเทือนต่อธุรกิจคาสิโนดั้งเดิมของชนเผ่าพื้นเมืองอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง.
[1] อาจารย์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
[2] การพนันกีฬาออนไลน์ถูกกฎหมายระดับรัฐเริ่มมีขึ้นตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา ผลจากคำตัดสินของศาลสูงสุดในคดี Murphy v. National Collegiate Athletic Association (2018) ที่ยอมรับให้แต่ละมลรัฐสามารถทำให้การพนันทายผลกีฬาถูกกฎหมายในรัฐของตนได้
[3] ที่มาของภาพ: https://www.theguardian.com/us-news/2020/feb/10/sheldon-adelson-trump-donation-republicans-congress#img-1
• D. Michael McBride III, Fifty Shades of Regulation: A Survey of Internet Gaming Issues in Indian Country and a Framework for Future Development, Gaming Law Review and Economics, 17(9), 2013, 643-655.
• Nelson Rose, Nevada Legalizes Internet Gambling—Maybe, Gaming Law Review, 5(6), 2001, 549-550.
• John D. Andrle, A Winning Hand: A Proposal for an International Regulatory Schema with Respect to the Growing Online Gambling Dilemma in the United States, UNLV Gaming Research & Review Journal, 10(1), 2006, 59-93.
• Sophia Huard, Online Gambling Legalization in the United States: from the Perspectives of Land-based Casinos and State Governments, Gaming Law Review, 22(2), 2018, 85-133.
• The American Gaming Association, State of the States 2019: The AGA Survey of the Commercial Casino Industry, (2018), from https://www.americangaming.org/wp-content/uploads/2019/06/AGA-2019-State-of-the-States_FINAL.pdf
ตอนที่ 16 การพนันออนไลน์ในอังกฤษ: ต้นแบบของการพนันออนไลน์แบบเปิดกว้าง
โดย ณัฐกร วิทิตานนท์ตอนที่ 15 การพนันออนไลน์ในออสเตรเลีย: เปิดตลาดนอก ปิดตลาดใน
โดย ณัฐกร วิทิตานนท์ตอนที่ 14 การพนันออนไลน์ในประเทศหมู่เกาะ: การท้าทายต่ออธิปไตยของรัฐมหาอำนาจ
โดย ณัฐกร วิทิตานนท์ตอนที่ 13 การพนันออนไลน์ในสหรัฐอเมริกา: หนึ่งประเทศหลายระบบ (2)
โดย ณัฐกร วิทิตานนท์ตอนที่ 12 การพนันออนไลน์ในสหรัฐอเมริกา: หนึ่งประเทศหลายระบบ (1)
โดย ณัฐกร วิทิตานนท์