ตอนที่ 7 มาตรการการคุ้มครองผู้เล่น

โดย ณัฐกร วิทิตานนท์

ตอนที่ 7 มาตรการการคุ้มครองผู้เล่น

เว็บคอลัมน์ ถอดรหัสคาสิโนออนไลน์ ตอนที่ 7

มาตรการการคุ้มครองผู้เล่น

โดย ณัฐกร วิทิตานนท์ [1]

 

เมื่อเอ่ยถึงมาตรการในการคุ้มครองผู้เล่นการพนัน (Player Protection) แน่นอน ย่อมมีมากมายหลายวิธี ในตอนนี้ขอหยิบเอามาตรการคุ้มครองผู้เล่น 3 เรื่องที่เห็นว่าสำคัญ ได้แก่ การจำกัดอายุผู้เล่น, การจำกัดเวลาและวงเงินที่เล่น และระบบกันตัวเองมานำเสนอ

 

การจำกัดอายุผู้เล่น (Age Verification)

มาตรการจำกัดอายุผู้เล่นการพนันถือเป็นเรื่องใหญ่ ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตให้บริการต้องมีหน้าที่ป้องกันไม่ให้ผู้มีอายุต่ำกว่าเกณฑ์สามารถเข้าเล่นได้ โดยทั่วไปอายุของผู้ที่มีสิทธิเข้าเล่นพนันออนไลน์ได้ตามกฎหมายของประเทศต่าง ๆ อยู่ที่ 18 ปีขึ้นไป แต่หลายประเทศก็กำหนดสูงกว่านั้น เช่น รัฐส่วนใหญ่ของอเมริกา อาทิ   โคโรลาโด เดลาแวร์ เนวาดา นิวเจอร์ซีย์ ซึ่งกำหนดเอาไว้ที่ 21 ปี

หลายเว็บไซต์การพนันกำหนดให้ต้องลงทะเบียน โดยต้องส่งหลักฐานยืนยันตัวตนเข้าไปให้ตรวจสอบก่อน เช่น บัตรประจำตัวประชาชน บัตรประกันสังคม หนังสือเดินทาง จึงจะสร้างบัญชีให้กับผู้เล่น ซึ่งหากหละหลวมหรือละเลยปล่อยให้ผู้ที่มีอายุไม่ถึงเกณฑ์เข้าเล่นก็อาจจะต้องถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการ ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นทางกฎหมายของแต่ละประเทศ ทว่าในทางความเป็นจริงแล้วก็ยากป้องกัน ดังที่ครั้งหนึ่งสามองค์กรของอังกฤษคือ NCH (National Children’s Home), GamCare [2] และ CitizenCard ตรวจสอบพบเว็บไซต์ถึง 30 แห่งที่เด็กอายุ 16 ปีซึ่งมีบัตรเดบิตลักลอบเข้าไปได้ จากทั้งหมด 37 เว็บไซต์ที่ถูกสำรวจ

 

การจำกัดเวลาและวงเงินที่เล่น (Time and Money Limit)

การที่เว็บไซต์มีระบบจำกัดเวลาและวงเงินที่ผู้เล่นตั้งใจจะใช้ในการเล่นพนันแต่ละครั้งช่วยให้ผู้เล่นสามารถควบคุมพฤติกรรมการเล่นของตนเองได้ไม่มากก็น้อย ขณะเล่นอาจมีการส่งข้อความแจ้งเตือน (Pop-up Message) ไปยังหน้าจอผู้ใช้งานอยู่เป็นระยะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใกล้หมดเวลาหรือจวนเต็มวงเงินที่กำหนดไว้แต่แรก เพื่อให้ผู้เล่นระมัดระวังการเล่นของตนได้ดีขึ้น

ตัวอย่างเว็บไซต์พนันออนไลน์ชั้นนำที่มีมาตรการดังกล่าว เช่น Sportsbet.com ให้ผู้เล่นตั้งจำกัดการเล่นได้หลายแบบ โดยไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในระยะเวลา 60 วัน หรือ Betfair ให้ผู้เล่นสามารถกำหนดวงเงินได้โดยจะเปลี่ยนแปลงวงเงินได้หลังจากผ่านพ้น 7 วันไปแล้วเท่านั้น

ผลการวิจัยของ Michael Auer กับ Mark D. Griggiths เมื่อปี 2013 สำรวจผู้เล่นการพนันผ่านเว็บไซต์ Win2day มากกว่า 100,000 คน แต่เจาะจงศึกษาเฉพาะผู้สมัครใจจำกัดเวลาและวงเงิน จำนวน 5,000 ราย โดยติดตามผลเป็นเวลานาน 3 เดือน เพื่อดูว่าการทำเช่นนี้ส่งผลดีต่อการเล่นพนันและลดปัญหาการพนันได้หรือไม่ ผลลัพธ์ในการจำกัดเวลาคือ ผู้เล่นมีการใช้เงินลดลง โดยเฉพาะผู้เล่นการพนันประเภทโป๊กเกอร์มีการใช้เงินลดลงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนการจำกัดวงเงินนั้น ส่งผลต่อการลดค่าใช้จ่ายเพื่อการพนันของผู้เล่นคาสิโนออนไลน์และลอตเตอรี่มากที่สุด

 

ระบบกันตัวเอง (Self-exclusion)

ระบบการกันตัวเองออกของผู้เล่นแรกเริ่มเดิมทีเคยเป็นมาตรการที่ถูกนำมาใช้ในคาสิโนจริงมาก่อน ซึ่งออกแบบมาเพื่อไม่ให้คนบางกลุ่มเข้าถึงสถานที่เล่นการพนัน โดยทั่วไปการใช้ระบบกันตัวเองออกคือการยอมให้บุคคลที่มีปัญหาในการควบคุมตนเองจากการติดพนันหลีกเลี่ยงนำพาตัวเองออกมาได้ด้วยความสมัครใจเป็นระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งต้องนานพอสมควร เช่นที่ได้อธิบายไว้บ้างในตอนที่แล้ว

การศึกษาของ Hayer และ Meyer ในปี 2011 พบว่า 27% ของนักพนันกลุ่มเป้าหมาย 259 รายของเว็บไซต์ European International Gambling เคยใช้ระบบกันตัวเองมาก่อน การหยุดเข้าถึงเว็บไซต์การพนันแม้เป็นการชั่วคราว แต่ก็ส่งผลทางจิตใจต่อผู้เล่น รวมถึงมีส่วนช่วยลดปัญหาของการติดพนันลงได้

อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้กลับไม่ได้รับความนิยมจากผู้เล่นเท่าที่ควร จากการสอบถามผู้เล่นโป๊กเกอร์ออนไลน์กับเว็บไซต์ Svenska Spel ของสวีเดน 1,000 กว่าราย มีผู้ใช้ระบบนี้เพียงแค่ร้อยละ 5 หรืออย่างในออสเตรเลีย Sportsbet ที่มีผู้ลงทะเบียนกว่า 750,000 ราย เป็นผู้เล่นประจำราว 200,000 ราย แต่กลับมีผู้ใช้ระบบการกันตัวเองเพียง 900 รายเท่านั้น

 

 

{#Player Protection.jpg}

 

ฟังก์ชั่นต่าง ๆ ที่ผู้เล่นสามารถใช้ควบคุมตัวเองที่มีอยู่ในเว็บไซต์พนันรายหนึ่ง [3]

 

ปัญหาน่ากังวลของหลายมาตรการข้างต้นก็คือขาดฐานข้อมูลกลาง ยังไม่มีความร่วมมือระหว่างบริษัทต่าง ๆ ในการเชื่อมโยงแบ่งปันข้อมูลซึ่งกันและกัน เช่น เมื่อผู้เล่นจำกัดการเล่นของตัวเอง แต่วงเงินหรือเวลาที่ตนกำหนดกำลังจะเกิน หรือใช้ระบบกันตัวเองออกมาจากเว็บไซต์แห่งนั้นแล้ว ก็มักเปลี่ยนไปพนันบนเว็บไซต์แห่งอื่นแทน ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบเพื่อป้องกันมิให้ผู้เล่นเหล่านี้เข้ามาเล่นได้อีก

พูดตามจริง มาตรการเหล่านี้ดูเหมือนจะไม่สู้ดีต่อผู้ประกอบการนัก เพราะในมุมมองทางธุรกิจมักมองว่าหากดำเนินการใด ๆ ที่เป็นการตรวจสอบผู้เล่นมากเกินไป กลุ่มผู้เล่นของตนก็ย่อมลดลงไปโดยปริยาย เพราะหันไปเล่นกับผู้ให้บริการรายอื่น ฉะนั้น กฎหมายจึงมีส่วนอย่างมากที่จะเข้ามาวางเกณฑ์มาตรฐานขั้นต่ำที่ธุรกิจพนันออนไลน์แต่ละแห่งพึงมี อย่างน้อย ๆ เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม.

 

รายการอ้างอิง

[1] อาจารย์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่

[2] หน่วยงานกลางที่รัฐบาลอังกฤษจัดตั้งขึ้นเพื่อให้ทำงานช่วยเหลือผู้ที่ได้รับปัญหาจากการพนัน (Central Agency for Responsible Gambling) และรณรงค์ในเรื่องสำนึกการเล่นการพนันด้วยความรับผิดชอบ (Play Responsibly)

[3] ที่มาของภาพ: https://www.asiaonlinecasinos.com/responsible-gambling/

 

ที่มาของข้อมูล

- Michael Auer and Mark D. Griffiths, Voluntary Limit Setting and Player Choice in Most Intense Online Gamblers: An Empirical Study of Gambling Behaviour, Journal of Gambling Studies, 29(4), 2013, 647–660.

- Robert T. Wood and Robert J. Williams, “Internet Gambling: Past, Present, and Future,” in Garry Smith, David C. Hodgins and Robert J. Williams, Research and Measurement Issues in Gambling Studies, (Burlington: Elsevier, 2007), 494-495.

- Sally Gainsbury, Internet Gambling: Current Research Findings and Implications, (New York: Springer, 2012).

- Tobias Hayer and Gerhard Meyer, Internet Self-exclusion: Characteristics of Self-excluded Gamblers and Preliminary Evidence for Its Effectiveness, International Journal of Mental Health and Addictions, 9(3), 2011, 296–307.