กฎหมายกำหนดว่า “การเล่นพนันเป็นความผิด” ทว่าในทุกสังคมกลับยอมให้มีการเล่นพนันบางประเภท และต่อต้านการเล่นพนันบางประเภท ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?
การจัดเวทีระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับนิยามการพนันหลายครั้งในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยศูนย์ศึกษาปัญหาการพนันและภาคีเครือข่าย พบว่า มีน้อยคนมากที่คิดว่าสังคมต้องปลอดพนัน คนส่วนใหญ่ในสังคม “ยอมให้มี” การเล่นพนันบางประเภท แต่ขณะเดียวกันก็เห็นว่าการพนันบางประเภทหรือการเล่นพนันบางลักษณะเป็นสิ่งที่ต้องควบคุมหรืออาจจะถึงขั้น “ต้องไม่ให้มี”
ปัจจัยสำคัญในการนิยามว่าการพนันประเภทใดเป็นการพนันต้องห้าม อันดับแรกคือ ต้องดูจากผลกระทบ การพนันที่ส่งผลกระทบสูงในแต่ละสังคมอาจจะแตกต่างกัน แต่โดยรวมมักจะวนเวียนกับการพนันไม่กี่ประเภท
ชาวบ้านส่วนใหญ่จัดอันดับให้ “ไฮโล” เป็นการพนันที่ส่งผลกระทบสูง ไฮโลจึงเป็นการพนันประเภทแรกๆ ที่ชาวบ้านมีกระบวนการ “ไล่ให้ไปอยู่นอกชุมชน” เพื่อปกป้องเยาวชนให้อยู่ห่างไกลจากการพนันประเภทนั้น
อย่างไรก็ดี การพนันที่แต่ละสังคม “ยอมให้มี” ยังต้องพิจารณาถึงองค์ประกอบอื่นๆ เช่น วัตถุประสงค์ในการเล่น ควรเป็นการเล่นเพื่อการเสี่ยงโชคหรือสันทนาการ วงเงินพนัน ต้องไม่สูงนัก (ซึ่งแต่ละสังคมจะกำหนดวงเงินไม่เท่ากัน) ความถี่ ต้องไม่เล่นทุกวัน เป็นต้น สำหรับการพนันยอดนิยมที่คนส่วนใหญ่ยอมรับได้ คือ สลากกินแบ่งรัฐบาลและหวยใต้ดิน ที่น่าสนใจคือ ตอนเริ่มต้นพูดคุย คนจำนวนหนึ่งเข้าใจว่า สลากกินแบ่งรัฐบาลไม่ใช่การพนัน เพราะออกโดยรัฐ และบางคนไม่แน่ใจว่าหวยใต้ดินเป็นการพนันหรือไม่ เพราะอ้างอิงตัวเลขการออกรางวัลจากสลากกินแบ่งรัฐบาล และรัฐเคยออกหวยบนดินด้วย
เวทีระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับนิยามการพนันของคนหลายกลุ่ม หลายวัยสะท้อนให้เห็นการจัดเรตติ้งการพนันเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่
ถึงเวลาที่ภาครัฐต้องขยับ จัดเรตติ้งประเภทการพนัน ให้สอดคล้องกับความคิดเห็นของผู้คนส่วนใหญ่ เพื่อทำให้กฎหมายการพนันสามารถบังคับใช้ได้จริง