ฟุตบอลโลก หนึ่งในมหกรรมกีฬาที่หมุนเวียนให้ผู้คนทั่วโลกได้ชมได้เชียร์ทุก 4 ปี เป็นทัวร์นาเม้นต์ที่เตะกันถึง 64 แมตช์ ภายในเวลา 1 เดือน ไม่ว่า จะหันไปทางไหนก็เจอวงพูดคุยเกี่ยวกับฟุตบอล และอีกสิ่งหนึ่งที่พ่วงมาคือ การพนันฟุตบอล ผลการสำรวจพฤติกรรมรับชมและการเล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก 2014 ประชาชน ทั่วประเทศที่มีอายุระหว่าง 15-69 ปี ของศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ และศูนย์ ศึกษาปัญหาการพนัน พบว่าฟุตบอลโลกเป็นรายการแข่งขันที่กลุ่มตัวอย่างนิยมรับชมการ ถ่ายทอดสดมากที่สุด ทิ้งห่างการรับชมการแข่งขันฟุตบอลทุกรายการ
ตลอดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 กลุ่มตัวอย่างเกือบครึ่งหนึ่งติดตามชมการ ถ่ายทอดสดการแข่งขัน และร้อยละ 9.4 หรือประมาณ 4.6 ล้านคนเล่นพนันฟุตบอล โดย เกือบครึ่งของกลุ่มที่เล่นพนันฟุตบอลมีลักษณะการเล่นแบบ “เล่นกันเอง” อีกเกินครึ่งเล็กน้อย หรือประมาณ 2.3 ล้านคน “เล่นกับเจ้ามือรับแทงพนัน” คือ เล่นกับโต๊ะโดยตรง เล่นกับคน เดินโพย เล่นแบบออนไลน์ ทั้งนี้นักพนันบางคนมีการเล่นพนันหลายช่องทาง และบางคน ทั้งเล่นพนันกันเองและเล่นกับเจ้ามือรับแทงพนันพร้อมกัน
เมื่อพิจารณาเฉพาะกลุ่มที่เล่นพนันฟุตบอลครั้งแรก หรือเป็น “นักพนันฟุตบอลหน้าใหม่”พบว่ามีประมาณ 2 ล้านคน ในจำนวนนี้มีกลุ่มที่เล่นกับเจ้ามือรับแทงพนันมากถึงกว่า 1 ล้านคนที่น่าสนใจคือหลังจบฟุตบอลโลก 2014 ประมาณ 1 ใน 4 ของกลุ่มตัวอย่างที่เป็นนักพนันฟุตบอลหน้าใหม่คิดว่าจะเล่นพนันฟุตบอลรายการอื่นต่อไป และเมื่อพิจารณาเฉพาะกลุ่มที่เล่นกับเจ้ามือรับแทงพนันพบว่ามีสัดส่วนของกลุ่มที่คิดจะ “เล่นต่อ” สูงกว่า แสดงให้เห็นว่า
ฟุตบอลโลกเป็นรายการแข่งขันที่ทำให้เกิดนักพนันฟุตบอลหน้าใหม่จำนวนมาก และการเล่นกับเจ้ามือรับแทงพนันจะทำให้กลายเป็นกลุ่มที่เล่นพนันฟุตบอลต่อเนื่องในสัดส่วนที่สูงกว่าการเล่นพนันเอง
นโยบาย vs การรณรงค์
ปรามการเล่นพนันฟุตบอลโลกได้จริง
จำนวนนักพนันฟุตบอลที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากสภาพแวดล้อมเอื้ออำนวย เช่น การมีบุคคลรอบข้างเล่นพนันฟุตบอลแล้วชวนไปเล่นด้วย การเข้าถึงแหล่งรับพนันได้ง่าย สังคมส่วนหนึ่งยอมรับว่าการเล่นพนันกับเพื่อนโดยใช้สิ่งอื่นที่ไม่ใช่เงินเป็นเรื่องเหมาะสม เป็นต้น จึงไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจที่พบว่า กลุ่มที่เล่นพนันฟุตบอลเกือบ 3 ใน 4 คิดว่าการเล่นพนันทำให้เชียร์ฟุตบอลสนุกตื่นเต้นขึ้น ขณะที่ร้อยละ 42.7 ระบุชัดเจนว่า ชอบการพนัน
ในทางตรงกันข้าม หลายภาคส่วนมีปฏิบัติการป้องกันปัญหาการเล่นพนันฟุตบอลโลก นับตั้งแต่ภาครัฐคือคณะรักษาความสงบแห่งชาติมีคำสั่งที่ 24/2557 เรื่อง “ห้ามไม่ให้มีการเล่นพนันที่ผิดกฎหมาย” เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2557 และก่อนเข้าช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดตั้ง “ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันทายผลบอลโลก” นอกจากนี้ สื่อและภาคประชาสังคมยังได้รณรงค์/ห้ามปรามต่อเนื่อง
นักพนันฟุตบอลบางคนกล่าวว่า การเข้มงวดกวดขันของตำรวจช่วงฟุตบอลโลก ทำให้ร้านรับพนันบางแห่งลดการสร้างแรงจูงใจให้คนเล่นพนันฟุตบอล ดังนั้นเมื่อเล่นพนันได้ไม่สะดวกเหมือนก่อน นักพนันฟุตบอลบางคนจึงไม่เล่นพนัน บ้างก็เล่นพนันลดลง ขณะที่บางคนหันไปเล่นพนันกับคนรู้จักแทน
การพนันฟุตบอลตลอดฤดูกาลเข่งขันฟุตบอลโลก 2014
คนเล่นพนันฟุตบอลโลกน่าจะเป็นแฟนบอล เพราะทุกคนที่เล่นพนันฟุตบอลรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขัน และมากถึงร้อยละ 34.1 ระบุว่าชมการถ่ายทอดสดทุกแมตซ์ ส่วนการเล่นพนัน พบว่าส่วนใหญ่เล่นพนันบางคู่ ร้อยละ 11.8 ระบุว่าเล่นพนันทุกคู่ และที่สำคัญ ร้อยละ 33.7 ชักชวนให้เพื่อนเล่นพนันฟุตบอลด้วย
ด้านวงเงินพนัน พบการเล่นพนันในวงเงินที่แตกต่างกันมาก แยกตามระดับรายได้ของผู้เล่น ตั้งแต่ 10-50,000 บาทต่อคู่ โดยในแต่ละคู่ของรอบลึกๆ จะมีการเพิ่มวงเงินเล่นพนัน ทำให้ประมาณการวงเงินหมุนเวียนตลอดฤดูกาลแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 อยู่ที่ 33,261 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี กลุ่มตัวอย่างที่เล่นพนันฟุตบอลระบุว่า การที่บุคคลแวดล้อมรับรู้และห้ามปรามการเล่นพนันมีแนวโน้มทำให้วงเงินพนันเฉลี่ยต่อคู่ลดลงเมื่อเทียบกับกรณีที่บุคคลแวดล้อมรับรู้แต่ไม่ห้ามปราม และกรณีหัวหน้างาน/ผู้บังคับบัญชาหรือคนรู้จักในชุมชน/ละแวกที่พักอาศัยเป็นผู้ห้ามปราม มีผลทำให้วงเงินพนันโดยเฉลี่ยลดลงเกือบครึ่งหนึ่ง
ผลกระทบจากการเล่นพนันฟุตบอลโลก
สบปัญหาหมุนเงินไม่ทัน ส่วนใหญ่อาศัยเพื่อนหรือคนในครอบครัวเป็นที่พึ่ง บางรายต้องขายทรัพย์สินมีค่า บางรายนำเงินบริษัท/หน่วยงานมาหมุนใช้ก่อน บางรายเลือกหาเงินด้วยวิธีที่ผิดกฎหมาย/ศีลธรรม และส่วนหนึ่งระบุว่าต้องเป็นหนี้ต้องกู้เงินนอกระบบ โดยร้อยละ 6.6 หรือประมาณ 303,087 คน ระบุว่ามีหนี้สินจากการเล่นพนันฟุตบอลโลก
นอกจากปัญหาเรื่องเงินและหนี้สิน การเล่นพนันฟุตบอลโลกยังส่งผลกระทบอีกหลายลักษณะ และบางส่วนมีพฤติกรรมการเล่นพนันที่เป็นปัญหา ดังนี้
ร้อยละ 10.6 มีความเครียดมาก
ร้อยละ 10.4 มีปัญหาทะเลาะกับคนในครอบครัว
ร้อยละ 10.2 ถูกโกง ( ไม่จ่าย / จ่ายไม่ครบ )
ร้อยละ 8.7 เสียการเรียน / เสียงาน
ร้อยละ 4.7 ทะเลาะวิวาทกับคู่พนัน
ร้อยละ 4.2 ถูกขู่ / กรรโชก / ทำร้ายร่างกายจากเจ้าหนี้
ร้อยละ 3.8 ต้องหาเงินมาเล่นหรือใช้หนี้ด้วยวิธีที่ผิดกฎหมาย / ศีลธรรม
พลังคนรอบข้างช่วยลดปัญหาการพนันฟุตบอล
ผลการสำรวจชี้ชัดว่า สภาพแวดล้อมเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเล่นหรือไม่เล่นพนันฟุตบอล และการห้ามปรามของคนรอบข้าง โดยเฉพาะหน้างาน/ผู้บังคับบัญชาหรือคนรู้จักในชุมชน/ละแวกที่พักอาศัย มีผลทำให้วงเงินพนันโดยเฉลี่ยลดลงเกือบครึ่งหนึ่ง และที่สำคัญ การเข้มงวดกวดขันของตำรวจมีนัยสำคัญต่อร้านรับพนัน
หลายฝ่ายจึงเชื่อว่า ถ้าตำรวจมี “ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันทายผลบอล” ทำงานต่อเนื่องและจริงจัง บุคคลรอบข้างที่รับรู้เรื่องการเล่นพนันถือว่า การพนันไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดา ต้องห้ามปรามผู้เล่น ในท้ายที่สุดจำนวนผู้เล่นพนัน ปัญหาและผลกระทบจากการพนันจะลดขนาดลง
ถึงเวลาที่ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันแก้ไข ร่วมแสดงพลังรณรงค์/ห้ามปรามการเล่นพนัน เพื่อลดผลกระทบจากการพนันและพฤติกรรมการเล่นพนันที่เป็นปัญหา
ฟุตบอลโลก เชียร์บอล แถมพนัน กับผลกระทบที่คาดไม่ถึง
โดย CGS teamห้ามสื่อนำเสนอการพนันทุกรูปแบบ
โดย ธาม เชื้อสถาปนศิริบี บางปะกง คอลัมนิสต์สายเลือดบอลไทยขนานแท้
โดย CGS team