บ่อนคาสิโนช่องสะงำ อ.อันลองเวง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมกราคม 2555 ตั้งอยู่ระหว่างชุมชนต่อแดนทั้งของไทยกับกัมพูชา ซึ่งในฝั่งไทย บ้านแซรไปร์ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เป็นชุมชนที่รวมตัวกันอย่างหลวมๆ ของชาติพันธุ์เขมรต่ำกับชาติพันธุ์ลาว และมีการเล่นการพนันอยู่ก่อน ขณะที่ในฝั่งกัมพูชา ชุมชนดั้งเดิมเป็นชุมชนของกลุ่มเขมรแดง ที่มีแนวทางสร้างสังคมใหม่ตามแนวทางสังคมนิยม โดยเห็นว่า การพนันเป็นสิ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาสังคมและเพิ่งจะมีการเล่นการพนันภายหลังที่เขมรแดงหมดอำนาจ การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) และเป็นการศึกษาข้ามพรมแดน (Cross Boundary Study) มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาบ่อนคาสิโนช่องสะงำที่ส่งผลกระทบต่อวิถีพนันของชาวบ้านในพื้นที่ต่อแดนของทั้งสองประเทศ กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้ให้ข้อมูลหลัก จำนวน 5 คน ผู้ให้ข้อมูลภาคปฏิบัติ จำนวน 16 คน ผู้ให้ข้อมูลทั่วไป จำนวน 20 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ แบบสังเกต และแบบการสนทนากลุ่ม ข้อมูลจากการรวบรวมภาคสนาม นำมาแจกแจงจัดหมวดหมู่ตามความมุ่งหมายของการศึกษาและตรวจสอบข้อมูลโดยใช้เทคนิคการตรวจสอบแบบสามเส้า (Triangulation) นำเสนอผลการวิจัยด้วยวิธีพรรณนาวิเคราะห์ (Descriptive Analytical Format) ระยะเวลาในการวิจัยตั้งแต่เดือนเมษายน 2556 ถึงเดือน กุมภาพันธุ์ 2557
การศึกษา พบว่า การเล่นพนันของชาวบ้านก่อนมีบ่อนคาสิโนช่องสะงำ ในฝั่งไทย ที่บ้านแซรไปร์ มีการเล่นการพนันที่มีลักษณะเป็นการพนันพื้นบ้าน ได้แก่ พนันไก่ชน โบก การพนันในลักษณะที่มีผู้นำเข้าสู่ชุมชน ได้แก่ ไฮโล ไพ่ หวยใต้ดิน ส่วนการเล่นพนันของชาวบ้านหลังมีบ่อนคาสิโนช่องสะงำ ยังคงมีการเล่นการพนันอย่างเดิมทุกชนิด และยังเพิ่มการพนันหวยหุ้นอีกด้วย ทางด้านกัมพูชา ในอดีตยุคเขมรแดงยังมีอิทธิพล ชาวบ้านไม่มีการเล่นพนัน แต่ภายหลังการเสียชีวิตและถูกจับดำเนินคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของระดับนำของเขมรแดง พร้อมๆ กับการเปิดด่านช่องสะงำ ทำให้เกิดชุมชนใหม่ และมีการเล่นการพนันกระจายทั่วไปจนถึงอำเภออันลองเวง เป็นการเล่นการพนันที่มีลักษณะเป็นการพนันพื้นบ้าน ได้แก่ พนันไก่ชน การพนันในลักษณะที่มีผู้นำเข้าสู่ชุมชน ได้แก่ พนันมวยตู้ หวยใต้ดิน กดามโฆละก์ (คล้ายน้ำเต้า ปู ปลา) ไพ่ สลากกินแบ่งรัฐบาลของกัมพูชา ส่วนภายหลังมีบ่อนคาสิโนช่องสะงำ ยังคงมีการเล่นการพนันอย่างเดิมทุกชนิด โดยในระยะหลังมีการเล่นพนันหวยใต้ดินโดยใช้ผลสลากฯ ของไทย และหวยหุ้นเวียดนาม
ทัศนะของชาวบ้านต่อการเล่นการพนันทั้งก่อนและหลังมีบ่อนคาสิโนช่องสะงำ ชุมชนฝั่งไทย ชาวบ้านมีทัศนะทั้งบวกและลบ โดยผู้มีทัศนะเป็นบวก เห็นว่า การพนันเป็นธุรกิจ คนที่เล่นทุกวันมีรายได้ เล่นยามว่างเป็นการผ่อนคลาย เป็นการเสี่ยงโชค เล่นการพนันเป็นการแก้เครียด ส่วนทัศนะในทางลบ เห็นว่า การพนันเป็นอบายมุข มีสิ่งจูงใจคือความต้องการอยากจะได้เงิน เป็นยาเสพติดชนิดหนึ่ง อยากเลิกแต่เลิกไม่ได้ ขณะที่ในฝั่งกัมพูชา ทัศนะของชาวบ้านก็มีทั้งบวกและลบเช่นกัน โดยในทางบวก เห็นว่า บ่อนไม่ได้สร้างผลกระทบ แต่สร้างเศรษฐกิจให้กับชาวบ้านได้มีงานทำขณะที่ชาวบ้านกำลังประสบปัญหาการว่างงาน มีเงินเดือน มีอาหารกินครบ 3 มื้อ เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ชุมชนที่อยู่รอบบ่อน โดยผู้ได้ประโยชน์โดยตรง คือ พนักงานบ่อนกว่า 800 คน และผู้ที่ได้ประโยชน์โดยอ้อม ได้แก่ กลุ่มผู้ค้า ร้านอาหาร และงานบริการ เช่น โรงแรม-ห้องพัก และผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้าง รถยนต์รับจ้าง ส่วนทัศนะในทางลบ เห็นว่า เกิดปัญหาในหมู่พนักงานของบ่อนเป็นประจำ เช่น การพบรักใหม่ในหมู่พนักงานจนเกิดปัญหาหย่าร้าง งานบ่อนเป็นงานหนัก มีการลาออกอยู่เสมอ อีกทั้งไม่สามารถพัฒนาตนเอง เพราะงานบ่อนไม่มีประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเอง เงินเดือนน้อย รายได้ต่ำกว่าการปลูกมันสำปะหลัง ไม่มีสวัสดิการ ส่วนใหญ่จึงมีแต่พนักงานหญิง เนื่องจากผู้หญิงเห็นว่างานบ่อนเป็นงานที่อยู่ในห้องแอร์ ทำให้หน้าขาวใส สำหรับผู้ที่เคยเป็นมวลชนเขมรแดงเห็นว่า ถ้าเลือกได้ จะเลือกสังคมแบบเขมรแดง ถึงไม่มีเงินแต่ครอบครัวมีความอบอุ่น ปัจจุบัน เศรษฐกิจดี แต่ครอบครัวมีปัญหา ไม่ซื่อสัตย์ต่อกัน มีปัญหายาเสพติด วัยรุ่นตีกัน เดือดร้อนพ่อแม่ต้องไปเสียเงิน
การปรับตัวของชาวบ้านต่อแดน ภายหลังการดำเนินนโยบายเปลี่ยนสนามรบให้เป็นสนามการค้าของรัฐบาลไทย พร้อมกับการพัฒนาเส้นทางคมนาคม ต่อเนื่องถึงการที่รัฐบาลกัมพูชาเปิดบ่อนคาสิโนตามแนวชายแดน ได้ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของวิถีพนันของชาวบ้านขึ้นทั้งสองฝั่ง ในฝั่งไทย ในห้วงเวลาที่เปิดบ่อนใหม่ๆ ชาวบ้านเข้าเล่นในบ่อนเป็นจำนวนมาก ในลักษณะเห่อของใหม่ ในระยะต่อมาก็ลดจำนวนลงเรื่อยๆ จนเหลือแต่นักพนันอาชีพและชาวบ้านที่เข้าบ่อนแบบรับจ้างนั่งรถตู้ ส่วนในฝั่งกัมพูชา ที่ชาวบ้านที่เป็นอดีตเขมรแดงต้องปรับตัวให้เข้ากับกระแสทุนนิยมและโลกาภิวัตน์ จนมีคำกล่าวกันในหมู่อดีตเขมรแดงว่า “เอาเงินไว้ก่อน” ทำให้หลายครอบครัวยอมจำนนต่อความจำเป็นทางเศรษฐกิจ โดยยินยอมให้ลูกๆ เข้าทำงานในบ่อน สำหรับคนในชุมชนหน้าบ่อนคาสิโน ซึ่งส่วนใหญ่ได้แก่ผู้ค้าแล้ว พอปิดร้านก็กรูกันไปที่บ่อนและเสียเงินให้บ่อนจนหมด
ผลกระทบจากบ่อนคาสิโนช่องสะงำที่มีต่อชุมชนต่อแดนฝั่งไทย มีทั้งผลกระทบด้านบวกและลบ ด้านบวก คือ เมื่อมีบ่อนทำให้การคมนาคมดีขึ้น ราคาที่ดินถีบตัวสูงขึ้น และตลาดนัดชายแดนทำให้ชาวบ้านสามารถเลือกซื้อสินค้าราคาถูกกว่าการเดินทางไปซื้อถึงในตัวอำเภอขุขันธ์ ส่วนผลกระทบด้านลบ ได้แก่ ปัญหาอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยรถนักท่องเที่ยวและรถตู้บริการนำนักพนันเข้าบ่อนช่องสะงำใช้ความเร็วสูง ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนถนนบ่อยครั้ง นักพนันอาชีพหมดเนื้อหมดตัวจนต้องขายที่ทำกิน และมีหนี้สินรุงรัง ในฝั่งกัมพูชา ผลกระทบด้านบวก ได้แก่ ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น คนมีงานทำ ชาวบ้านสามารถหางานใกล้บ้านไม่ต้องเดินทางเข้าไปเมืองใหญ่ ส่วนผลกระทบด้านลบมักเกิดกับผู้ที่เข้าบ่อน ได้แก่ ผู้นำชุมชนที่มีฐานะทางการเงินดี หรือเป็นนักธุรกิจ มีนักพนันหญิงชาวเขมรเมื่อเล่นพนันจนหมดตัวทำให้ต้องขายตัวในที่สุด
ด้วยชุมชนต่อแดนทั้งฝั่งไทยและฝั่งกัมพูชาอยู่ห่างไกลจากศูนย์อำนาจและห่างด้วยระยะทาง เป็นพื้นที่ชายขอบทั้งโดยนัยและทางกายภาพ แต่ถูกตั้งประชิดโดยบ่อนคาสิโนที่ดำเนินงานโดยผู้จัดเกมและผู้ดำเนินกลยุทธ์การตลาดระดับโลก การปกป้องสมาชิกไม่ให้เข้าบ่อนจึงเป็นภาระที่หนักเกินกำลังของชุมชน และเป็นเงื่อนไขปัจจัยที่ไม่อาจควบคุมได้ด้วยศักยภาพของชุมชน สังคมจึงควรเข้าช่วยเหลือสนับสนุนเพื่อไม่ให้ชุมชนต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว
![]() |
การศึกษาสถานการณ์ พฤติกรรม และผลกระทบการพนันในประเทศไทย ประจำปี 2558
โดย ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ (SAB)ผลกระทบจากสถานการณ์การพนันตามแนวชายแดน: กรณีคิงส์โรมันคาสิโน เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ สปป.ลาว
โดย ณัฐกร วิทิตานนท์ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก: ความเป็นชาย วัยรุ่น และวัฒนธรรมบริโภคนิยม
โดย วสันต์ ปัญญาแก้ว, อาจินต์ ทองอยู่คง, พงศกร สงวนศักดิ์, ปลายฟ้า นามไพรการสำรวจความคิดเห็นต่อข้อเสนอเพื่อแก้ปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาล
โดย ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ (SAB)